"สุชาติ" โว "พปชร." ผลงานอื้อ พูดวันเดียวไม่หมด สวน คนว่ากระแสตก คิดเองเออเอง

"สุชาติ" โว "พปชร." ผลงานอื้อ พูดวันเดียวไม่หมด สวน คนว่ากระแสตก คิดเองเออเอง

"สุชาติ" ชี้ เป็นเอกสิทธิ์ "ส.ส.พปชร." โผล่ เบิร์ดเดย์ "เนวิน" เป็น เอกสิทธิ์ ระบุ ทุกคนยืนยัน ไม่ย้ายไปไหน สวน พวกหาว่ากระแสพรรคตก คิดเองเออเอง โว ผลงานอื้อ พูดวันเดียวไม่หมด ชี้ ยังไม่เคยคุย "จักรทิพย์" แคนดิเดตนายกฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผอ.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ บางส่วนเดินทางไปร่วมงานวันเกิดนายเนวินชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่จังหวัดบุรีรัมย์ หรือครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยเป็นการส่งสัญญาณว่าจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า เมื่อวานเป็นงานวันเกิดนายเนวิน ซึ่งในทางการเมืองสามารถไปได้ ตนก็เคยไปร่วมงานวันเกิด นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทยแต่ความชัดเจนว่าใครจะอยู่ตรงไหนนั้น อีกสักพักทุกคนจะได้ทราบ แต่วันนี้ยังเป็นพลังประชารัฐอยู่ และในส่วนของส.ส.จังหวัดที่ไปก็เป็นเพื่อน แต่บางครั้งก็ไปบังคับเส้นทางเดินชีวิตของแต่ละคนไม่ได้ เพราะเขามาเป็นนักการเมือง มาเป็นส.ส.ต่างก็มีอุดมการณ์ของตัวเอง เราในฐานะส.ส.และรัฐมนตรี ก็มีอุดมการณ์ของตัวเองเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ต้องปล่อยให้เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว พร้อมย้ำว่าการไปแสดงความยินดีเป็นเรื่องปกติ หลายคนที่ไปคงไม่ใช่ประเด็นการเมือง 

นายสุชาติ กล่าวว่า สุดทายแล้วจะยังอยู่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น เรื่องนี้เมื่อมีการพูดคุยกัน ทุกคนก็ยังยืนยันว่ายังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ในอนาคตที่จะมีการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในช่วงครบวาระ จึงจะได้เห็นว่าใครพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน หรือใครที่มีแนวคิดแนวทางที่จะไป ถือเป็นเอกสิทธิ์

เมื่อถามว่า เกี่ยวข้องกับกระแสภายในพรรคหรือไม่ ที่ทำให้ส.ส.ไหลออก นายสุชาติ กล่าวว่ามุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน กระแสพรรคที่ทุกคนคิดว่าไม่ดี ตนมองว่าอาจเป็นการคิดเองเออเอง หรืออาจติดตามจากบางสื่อที่ตรงข้ามกับพรรคพลังประชารัฐ แต่หากติดตามการทำงานของพรรค หัวหน้าพรรค ที่ทำงานทางการเมือง ตนมองว่าประชาชนได้เห็นภาพสะท้อนกลับว่าพรรคพลังประชารัฐ ได้ทำหลายอย่าง เช่น ตนที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในโควตาพรรคพลังประชารัฐ สิ่งที่ตนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.มีแต่เรื่องสำคัญ เช่น พ.ร.บ.แรงงานนอกระบบซึ่งเคยมีใครทำบ้าง หากไม่ใช่เราที่ทำในนามพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น วันนี้จะบอกว่าพรรคพลังประชารัฐกระแสไม่ดีหรือไม่ทำอะไร หากจะให้ตนบอกสื่อมวลชนใช้เวลาหนึ่งวันคงบอกไม่หมดว่าทำอะไรไปบ้าง

ทั้งนี้ ตอนนี้การเมืองเป็นช่วงนับถอยหลัง มีออกก็ต้องมีเข้า เช่นเดียวกับพรรคอื่นซึ่งเป็นเรื่องปกติ คนที่เป็น ส.ส. ไม่ว่าจะออกหรือเข้า ใช่ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะกลับมา 500 คนเท่าเดิม การเมืองมีคนใหม่เข้ามาและคนเก่าที่ไม่ผ่านการรับเลือก ถือเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่ความนิยมและการเป็น ส.ส. ว่าได้มีการปฏิบัติตัวต่อประชาชนในพื้นที่อย่างไรบ้าง 

เมื่อถามถึงกรณีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแสดงความยินดีหากพรรคพลังประชารัฐจะส่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในส่วนของพรรค จะคิดส่วนตัวไม่ได้ และตนมองว่าสิ่งที่นายแพทย์ชลน่านพูด หากใช้ตรรกะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยอาจจะเสนอนายแพทย์ชลน่านเป็นแคนดิเดตนายกฯก็ได้ เนื่องจากเป็นหัวหน้าพรรค แต่หากทุกอย่างไม่ได้อยู่บนตรรกะเดียวกัน ก็อยู่ที่ที่ประชุม อยู่ที่ความลงตัวและช่วงเวลานั้นๆ 

ส่วนจะมีการส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบ 3 คนหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ตนไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าไม่มีรอยร้าวเกิดขึ้น เพราะทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่หนักมาก และเมื่อวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้เปรยว่า เป็นห่วงพลเอกประวิตร เพราะลงพื้นที่ติดต่อกันหลายวัน ดังนั้นจึงต้องให้กำลังใจทั้งสองท่าน

เมื่อถามย้ำว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐมองว่าแคนดิเดตนายกของพรรคควรมีมากกว่า 1 คนหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า วันนี้สื่อหรือนักกฎหมายตีความว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ได้ถึงปี 68 จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องเสนอคนที่ 2 และ 3 เผื่อไว้ แต่จะออกมาพูดว่าส่งใครเป็นที่ 2 ที่ 3 ตอนนี้คงไม่ได้ ต้องมีการพูดคุยและออกเป็นมติพรรค

ส่วนบทบาทพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.ในพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้นั้นพล.ต.อ.จักรทิพย์ เข้ามาช่วยในส่วนที่พรรคยังไม่แข็งแรง ในโซนอีสาน ในส่วนอื่นไม่ได้เข้ามาเกี่ยวเพราะภาคใครภาคมัน ส่วนจะไปถึงขั้นเป็นหนึ่งในแคนดิเดตของพรรคหรือไม่ตนยังพูดไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่ต้องลงมติ หากพูดไปจะเสียมารยาทและในพรรคยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ 

ทั้งนี้ตนยอมรับว่ามีความสนิทสนมกับส.ส.ในโซนภาคกลาง ภาคตะวันออกและตะวันตก เพราะเป็นเพื่อนที่คบกันมา ซึ่งก็มีการพูดคุยกันในวันที่พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนดีใจเพราะเป็นนายกฯที่พรรคพลังประชารัฐเสนอ และกลับมาโดยใสสะอาด และเป็นเอกฉันท์ทุกอย่าง ทำให้เรามีพลังให้เดินต่อไปได้