2 ส.ส.ก้าวไกลวิเคราะห์หลังศาล รธน.ให้ “บิ๊กตู่” ไปต่อ เชื่อยุบสภาฯหลังเอเปก

2 ส.ส.ก้าวไกลวิเคราะห์หลังศาล รธน.ให้ “บิ๊กตู่” ไปต่อ เชื่อยุบสภาฯหลังเอเปก

2 ส.ส.ก้าวไกล วิเคราะห์หลังคำวินิจฉัยศาล รธน. “ปดิพัทธ์” ชี้หลัง “เอเปก” ยุบสภาฯ แนะจับตาทหารให้ดี รัฐประหารได้ไม่คุ้มเสีย เชื่อทฤษฎีเกี๊ยะเซียะ “ทักษิณ-บิ๊กป้อม” ด้าน “ณัฐพงษ์” จับตา “ประยุทธ์” ไม่ถูกชงชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกสมัยหน้า

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก วินิจฉัยว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ครบ 8 ปี ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั้นไม่เกินความคาดหมาย  การยุบสภาฯขั้นต่ำ น่าจะเกิดขึ้นหลังการประชุมเอเปก แต่อยู่ที่เงื่อนไขของฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย แต่ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม คงไม่มีทางยุบสภาฯหรอก แต่จะใช้เวลา6เดือน ที่เหลือ เดินหน้าสร้างความได้เปรียบทางการเมืองก่อนเลือกตั้ง งบประมาณจะออกช่วงปลายปี ส่วนโผการแต่งตั้งโยกย้ายก็ช่วงต.ค. คงตรึงกำลังของภาครัฐให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่สุด ขณะที่ฝ่ายค้านทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้กรอบ180 วัน กกต. ถ้าเราสวมรองเท้าของพล.อ.ประยุทธ์ คงยังไม่มีทางยุบสภาฯ ที่ต้องหลังเอเปก เพราะต้องมีการย้ายค่ายของส.ส.หลายคนต้องย้ายออกจากพรรคเดิมล่วงหน้าก่อน 90 วัน เพื่อสังกัดพรรคใหม่ คงมีการกินข้าวกันหลายรอบ 

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่งสัญญาณที่จะย้ายพรรคกันแล้ว แต่ต้องจับอีกหลายสัญญาณทั้งภาคประชาชน ทุกคนก็ผิดหวัง แต่ลึกๆประชาชนรู้ ต้องดูสัญญาณหลายๆอย่างด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ออกมาขู่รัฐประหารมันไม่ค่อยมีน้ำหนักอะไรหรอก แต่ทหารทำไมต้องออกมาย้ำว่า ให้อุ่นใจได้ไม่มีรัฐประหาร ทุกคนก็ต้องจับตาสัญญาณของทหารให้ดี ถ้าสุดท้ายแล้วอดทนกันได้ อาจจะไปจบที่มีการเลือกตั้งให้ได้ ไม่ให้มีการคว่ำการเลือกตั้ง เราพูดคุยกันว่า เราไม่เคยให้ค่าพวกออกมาขู่รัฐประหารอยู่แล้ว ต่อให้ทำรัฐประหารสำเร็จ ก็คงปกครองประเทศไม่ได้ คราวนี้คงไม่มีใครเอาดอกไม้ไปมอบให้รถถัง จะเดินหน้าต้อนรับผู้นำนานาชาติในเอเปกอย่างไร ในเมื่อออกมาขู่รัฐประหารแบบนี้ บริบททางสังคมมันไม่เอื้อ ภายในเวทีโลกจะตกต่ำมาก เขาคงประเมิณออกว่ามันไม่คุ้ม 

นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า ชนชั้นนำหรือว่าทางฝั่งพลังประชารัฐต้องประนีประนอมกับทางเพื่อไทยให้ได้ และรอบหน้าถ้าแลนด์สไลด์จริง ๆ อะไรทำได้หรือทำไม่ได้ ทฤษฎีเกี้ยเซี๊ยมันก็ยังมีตลอด แต่ว่าเราก็ไม่รู้เพราะว่า สายสัมพันธ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับอะไรทั้งหลาย มันก็เกินกว่าพรรคการเมือง การที่ทหารจะเดินหน้าประนีประนอม มีมากกว่าจะเดินหน้าก่อรัฐประหาร  ส่วนกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต่าง ๆ ที่ยังตัน ๆ อยู่ ส่วนจะทำให้ไม่มีเลือกตั้งหรือไม่ ไม่กลัว เพราะกฎหมายทางสภาฯสุดท้าย ถ้าจะเอาให้เสร็จ อะไรมันก็เสร็จแบบง่าย ๆ และถ้าสุดท้ายไม่มีกฎหมายเลือกตั้งจริง ๆ องค์กรอิสระอย่าง กกต. ก็ขอให้ ครม.ออก พ.ร.ก.ได้ แต่ประธาน กกต.ต้องออกมายืนยันด้วย ไม่ว่าจะมีโควิด-19 หรืออะไร ก็จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง แต่ตอนนี้ กกต. มีหน้าที่แค่รับบริการการเลือกตั้ง   

  • จับตา “บิ๊กตู่” ไม่ถูกชงชื่อแคนดิเดตนายกฯครั้งหน้า

วันเดียวกัน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ค้านสายตาสภาพข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ก็เห็นกันอยู่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯมาตั้งแต่ปี2557 ทุกคนเห็นชัดเจน ไหนจะมีเรื่องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เคยบอกว่าดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ส่วนคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญบอกว่า ให้นับตั้งแต่ปี2560 มันก็มีการย้อนแย้งกันอยู่ 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะกล้าเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯในการเลือกตั้งรอบหน้าหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า น่าจะมีเรื่องกระแสภายในของพลังประชารัฐเขาเอง คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ยาก ถ้าเริ่มนับปี 2560 จริง 8 ปีก็เท่ากับว่า อย่างไรเสียในปี 2568 พล.อ.ประยุทธ์ ก็ครบวาระ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งรอบหน้า