“เพื่อชาติ” สลัดพรรคอะไหล่ “มาดามฮาย”รุ่นใหม่รีแบรนด์

“เพื่อชาติ” สลัดพรรคอะไหล่  “มาดามฮาย”รุ่นใหม่รีแบรนด์

จุดเริ่มของลูกไม้ใต้ต้น “ปวิศรัฐฐ์” ก้าวขึ้นมานำพรรคเพื่อชาติ แม้จะถูกมองว่าอยู่ใต้เงาพ่อ “ยงยุทธ” คอยกำกับอยู่เบื้องหลัง แต่เธอขอพิสูจน์ตัวเอง โดยทิ้งท้ายไว้ว่า  “ในบ้าน หากจะมีใครไม่เชื่อฟังคุณพ่อ ก็เป็นฮายนี่แหละ ที่แข็งข้อกับคุณพ่อมากที่สุด”

จากพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นอะไหล่ของพรรคเพื่อไทย จากพรรคที่มี “แกนนำนปช.” เป็นแกนหลักในการหาเสียง จากพรรคที่ ส.ส.ทยอยโบกมือลา แต่ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อชาติ (พช.) ขอปักหลักขับเคลื่อนพรรคนี้ต่อ

โดยมีภารกิจรีแบรนด์พรรคครั้งใหญ่ ลบภาพจำพรรคอะไหล่-พรรคคนเสื้อแดง ทิ้งเอาไว้ข้างหลัง หวังฐานเสียงจาก “คนรุ่นใหม่” แม้จะต้องทุ่มเทกำลังกาย-กำลังทรัพย์ แต่บรรดาขุนพลพรรคเพื่อชาติพร้อมทุกสรรพกำลัง

การเปลี่ยนแปลงครั้งแรก เริ่มจากการปรับโครงสร้างพรรค และเปิดตัวทายาทการเมือง หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ รุ่นใหม่ "ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช" ลูกสาวคนเล็กของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” นักการเมืองดังแห่งเชียงราย 

"ปวิศรัฐฐ์" วัย 31 ปี มีชื่อเล่นว่า “ฮาย” โปรไฟล์การศึกษา หลังจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ The London School of Economics and Political Science 

เธออยู่ในโฟกัสมากขึ้น เมื่อปี 2562 ขึ้นเป็นประธานสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และนำทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 ในวงการฟุตบอลไทยลีก จึงเรียกขานเธอว่า “มาดามฮาย” หรือ “แม่เลี้ยงฮาย”

ปีนี้ 2565 เธอยอมทิ้งเก้าอี้ประธานสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติคนใหม่ ทั้งที่ยังไม่เลยลงสนามการเมือง แต่ความเป็นครอบครัวการเมือง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับตัว

“กรุงเทพธุรกิจ” พูดคุยกับเธอถึงการเปลี่ยนเส้นทาง ท่ามกลางความเซอร์ไพรส์ของคอการเมือง  โดย“ปวิศรัฐฐ์” เปิดประเด็นสนทนา ด้วยการเคลียร์ข้อครหาว่า “ตั้งแต่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ก็มีคำครหาว่าคุณพ่อเป็นคนชักชวนให้เข้ามาทำงานการเมือง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ไม่มีคำขอจากคุณพ่อ ฮายกับทีมงานเข้าไปที่พรรค และเสนอรีแบรนด์พรรค เพราะก่อนหน้านี้ มีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาหลายครั้งแล้ว เราก็พรีเซนต์แนวคิดและไอเดียของเรา ซึ่งที่ประชุมพรรค ก็เห็นชอบตามที่เราเสนอ จากนั้นฮายจึงรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค”

ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่าพี่สาวของเธอ “ส.ส.โฮม” ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย และยังมีกรณี อา “ละออง ติยะไพรัช” ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่ยังแยกกันเดิน ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อชาติ ถูกมองว่าเป็นพรรคอะไหล่ของเพื่อไทย “ปวิศรัฐฐ์” มีคำตอบว่า “ฮายขอยืนยัน ว่าจะทำให้พรรคเพื่อชาติ เป็นตัวจริงทางการเมือง”

“เรามีเป้าหมาย มีอุดมการณ์ และมีจุดยืนของตัวเอง เราจะส่งผู้สมัคร ส.ส. เขต ให้ครบและส่งให้ได้มากที่สุด เรื่องของพี่สาว (ปิยะรัฐชย์) และคุณอา(ละออง) เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ฮายไม่สามารถไปห้ามได้ จากนี้ไปเรามานับหนึ่งกันใหม่ พรรคพช.เรามีจุดยืนของเรา เราจะมีวัฒนธรรมใหม่ของพรรคเรา”

“เพื่อชาติ” สลัดพรรคอะไหล่  “มาดามฮาย”รุ่นใหม่รีแบรนด์

“เมื่อฮายเป็นหัวหน้าพรรค เราจะมีจุดแข็งในแบบของเรา เรื่องตัวบุคคลจะเป็นเรื่องรองลงไป ไม่ใช่ว่าพี่สาวและคุณอา จะอยู่ต่างพรรคแล้วจะทำให้เราเสียจุดยืน และไม่มองว่าเป็นจุดอ่อน หรือจุดด้อยของพรรคเลย กลับจะเป็นจุดเด่นของพรรคเสียมากกว่า”

อย่างไรก็ตาม ในศึกเลือกตั้งหน้า ซึ่งขณะนี้มี ส.ส. อยู่ 5 คน แต่ทั้งหมดจะไม่ไปต่อกับพรรคเพื่อชาติ จะส่งผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ “ปวิศรัฐฐ์” บอกว่า “แม้เราไม่ได้มีแกนนำกลุ่มเดิม แต่เราไม่ได้มองเป็นอุปสรรค เรามีกลุ่มใหม่ คนใหม่ ติดต่ออยากจะเข้าร่วมกับพรรคจำนวนมาก และหลังเราประกาศว่า เราต้องการเป็นตัวจริง ยิ่งทำให้พรรคได้รับความสนใจมากขึ้น”

สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อชาติ ในยุคของ“ปวิศรัฐฐ์” เธอบอกว่า จะขอแจกแจงรายละเอียดทุกนโยบายในวันที่ 14 ตุลาคมนี้่ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยมีกรอบใหญ่ นโยบายในระยะยาว ที่จะเน้นนโยบายด้านการศึกษา เพราะต้องการวางรากฐานให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืน ส่วนนโยบายระยะสั้น เราต้องเร่งแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน

“เพื่อชาติ” สลัดพรรคอะไหล่  “มาดามฮาย”รุ่นใหม่รีแบรนด์

“พรรคเพื่อชาติเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เราจะเสนอนโยบายใหม่ ที่สำคัญเราจะลบภาพจำเดิมๆ ออกไปให้หมด ที่สำคัญเราไม่ได้รีบร้อนว่า ทำพรรคแล้วจะต้องประสบความสำเร็จเลย เรามีเวลาอีกยาว ต่อให้การเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง เราไม่ประสบความสำเร็จ เราก็จะเดินหน้าต่อ เพราะนี่คือจุดเริ่มต้น”

ขณะเดียวกัน “ปวิศรัฐฐ์” ก็ไม่ได้วางพื้นที่ฐานเสียงไว้เฉพาะ จ.เชียงราย หรือพื้นที่ภาคเหนือ แต่ตั้งใจจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งประเทศ

“เรื่องในอดีตเรามีพื้นที่อยู่ที่ภาคเหนือ แต่เมื่อเราประกาศว่าจะต้องเป็นพรรคการเมืองตัวจริง เราวางเป้าหมายจะเป็นพรรคใหญ่ในอนาคต เราต้องวางระบบเพื่อคนทั้งประเทศ และเมื่อเราวางเป้าหมายระยะยาว เราไม่ได้หวังจำนวน ส.ส. ในการเลืองตั้งครั้งหน้าเลย เราต้องการวางนโยบายที่ตอบโจทย์ของประชาชน เพื่อเป็นพรรคตัวจริงของประชาชน เราจะได้ ส.ส. สักกี่คนก็ไม่ได้ถือว่าล้มเหลว แต่เป็นจุดเริ่มต้น ไม่คิดว่าตัวเองจะท้อถอย”

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างยงยุทธ บิดา กับอดีตนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นโอกาสให้พรรคเพื่อชาติจับมือกับพรรคเพื่อไทยไปตลอดหรือไม่ “ปวิศรัฐฐ์” ตอบทันทีว่า “การจับมือกันทางการเมือง ไม่ว่าจะจัดตั้งรัฐบาล หรืออยู่ฝ่ายค้าน ไม่ได้ยึดถือที่ตัวบุคคล หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่เรายึดถืออุดมการณ์ของพรรค คือยึดมั่นระบบประชาธิปไตย”

ขณะที่ความคาดหวังต่อคนรุ่นใหม่ ที่มาทำพรรคการเมือง โดยเฉพาะนโยบายสุดโต่ง “ปวิศรัฐฐ์” กล่าวว่า “ฮายมองว่าเรื่องความแตกต่างทางชนชั้น ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมโลก และการแก้ปัญหาเราไม่ใช้ความรุนแรง ดังนั้นเราจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยหลักการ และไม่แก้ปัญหาแบบสุดโต่ง”

จุดเริ่มของลูกไม้ใต้ต้น “ปวิศรัฐฐ์” ผู้ก้าวขึ้นมานำพรรคเพื่อชาติ แม้จะถูกมองว่าอยู่ใต้เงาของพ่อ “ยงยุทธ” ที่คอยกำกับอยู่เบื้องหลัง แต่เธอขอพิสูจน์จุดยืนการเมืองของตัวเอง โดยทิ้งท้ายไว้ว่า  “ในบ้าน หากจะมีใครไม่เชื่อฟังคุณพ่อ ก็เป็นฮายนี่แหละ ที่แข็งข้อกับคุณพ่อมากที่สุด”

“เพื่อชาติ” สลัดพรรคอะไหล่  “มาดามฮาย”รุ่นใหม่รีแบรนด์