หลังฉากจับ “พ่อค้าอาวุธ” เมียนมา โยง รร.ท่าขี้เหล็ก “ส.ว.ไทย” เจ้าของเก่า

หลังฉากจับ “พ่อค้าอาวุธ” เมียนมา โยง รร.ท่าขี้เหล็ก “ส.ว.ไทย” เจ้าของเก่า

หลังฉากบุกจับ “ทุน มิน ลัต” พ่อค้าอาวุธ ให้กองทัพเมียนมา สัมพันธ์ลึกธุรกิจร่วม “อุปกิต ปาจารียางกูร” ส.ว.ไทย เจ้าของเก่าโรงแรมท่าขี้เหล็ก ตั้งปี 2542 แต่ขายไปแล้วเมื่อปี 2562 พบ “คนสัญชาติไทย” ผู้ซื้อ

ข่าวฉาวสะเทือนแวดวง “อาเซียน” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

เมื่อสื่อหลายสำนักใน “เมียนมา” รายงานอ้างเอกสารข่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2565 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปูพรมตรวจค้นหลายจุด และจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดีกล่าวหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และสมคบกันฟอกเงินได้ 4 ราย พร้อมกับยึดทรัพย์สินได้เบื้องต้น 200 ล้านบาท โดยหนึ่งในผู้ต้องหาคือ บุคคลสัญชาติเมียนมา อายุ 53 ปี ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา เพื่อควบคุมตัวไว้ระหว่างการสอบสวนแล้ว

ข้อมูลจากสำนักข่าวอิรวดีของเมียนมา ระบุว่า หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกทางการไทยจับกุมตัวในคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และสมคบกันฟอกเงินดังกล่าว คือ “ทุน มิน ลัต” (Tun Min Latt) เป็นพ่อค้าอาวุธให้กับกองทัพเมียนมา และเจ้าของบริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ กรุ๊ป

เว็บไซต์ Justice for Myanmar ระบุว่า บริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ กรุ๊ป อยู่ภายใต้การบริหารของ “ทุน มิน ลัต” โดยเจ้าตัวถูกระบุว่าเป็น “นายหน้า” ค้าอาวุธจากบริษัทเอกชนใน “อิสราเอล” เพื่อนำมาขายให้แก่กองทัพเมียนมา

รายงานข่าวดังกล่าว อ้างด้วยว่า “ทุน มิน ลัต” เคยร่วมมือทางธุรกิจกับ “อุปกิต ปาจรียางกูร” นักธุรกิจชื่อดังของไทย สามีเก่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ปัจจุบันเป็น ส.ว.ด้วย 

สำหรับ “อุปกิต” คืออดีตผู้ก่อตั้งโรงแรม “Allure Resort Hotel Tachileik Myanmar” ตั้งอยู่บริเวณ ท่าขี้เหล็ก เมียนมา โดยโรงแรมแห่งนี้เป็นหนึ่งในเครือ “Allure Group” (ข้อมูลปัจจุบัน นายอุปกิต แจ้งว่าได้ขายโรงแรมดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ส.ว. เมื่อปี 2562)

ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท Allure Group Co., Ltd. ระบุว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 26 พ.ย. 2542 (ค.ศ.1999) เลขทะเบียน 330/99 ปรากฏชื่อนายอุปกิต ปาจรียางกูร เป็นผู้ยื่นจดทะเบียน แจ้งประกอบธุรกิจ โรงแรมและการบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว (hospitality hotels and tourism related services) ชื่อที่ใช้ในเมียนมาคือ “Myanmar Allure Group Co., Ltd.” ทุนจดทะเบียน 12 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ระยะเวลาที่ได้รับการอนุญาตลงทุน 30 ปี

หลังฉากจับ “พ่อค้าอาวุธ” เมียนมา โยง รร.ท่าขี้เหล็ก “ส.ว.ไทย” เจ้าของเก่า

ข้อมูลจากเว็บไซต์ opencorporates ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลธุรกิจที่ถูกจดทะเบียนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา ระบุว่า Myanmar Allure Group Co., Ltd. เคยปรากฏชื่อ “ทุน มิน ลัต” เป็นกรรมการ ในบริษัทดังกล่าว ร่วมกับนายอุปกิต ปาจรียางกูร ด้วย

หลังฉากจับ “พ่อค้าอาวุธ” เมียนมา โยง รร.ท่าขี้เหล็ก “ส.ว.ไทย” เจ้าของเก่า

หลังฉากจับ “พ่อค้าอาวุธ” เมียนมา โยง รร.ท่าขี้เหล็ก “ส.ว.ไทย” เจ้าของเก่า

เมื่อดูข้อมูลในการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ว. กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2562 ที่ “อุปกิต” แจ้งไว้ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งสถานะว่าหย่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,774,334,576 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 48,468,415 บาท มีรายได้รวม 566,954,720 บาท มีรายจ่ายรวม 6.4 ล้านบาท

นอกจากนี้ “อุปกิต” ทำหนังสือเรียนชี้แจงต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีการขายธุรกิจโรงแรมท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยระบุว่า เอกสารฉบับนี้ ทำขึ้นที่ เขตดุสิต กทม เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2562 ชี้แจงข้อเท็จจริงการขายโรงแรม 

ข้าพเจ้าขอเรียนแจ้งข้อเท็จจริงการขายโรงแรมของข้าพเจ้า ดังนี้ ข้าพเจ้าได้ขายโรงแรม Allure Resort Hotel Tachileik Myanmar ตั้งอยู่ในสหภาพเมียนมา เนื่องจากต้องการให้ปราศจากข้อครหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม อีกทั้งไม่ได้เข้าไปดูที่โรงแรมมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว จึงตัดสินใจขายกิจการโรงแรมออกไปก่อนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส.ว. และได้กล่าวปฏิญาณตนต่อที่ประชุมสภาเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2562 โดยข้าพเจ้าได้รับการชำระเงินค่าโรงแรมดังกล่าวในต่างประเทศ โดยเข้าบัญชีธนาคาร B.I.C. (CAMBODIA) BANK PLC. เลขบัญชีที่ 00001-01-000083-09 เป็นเงินทั้งสิ้น 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 251,672,000 บาท) จึงขอยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมในการรับการชำระเงินค่าโรงแรมดังกล่าว

หลังฉากจับ “พ่อค้าอาวุธ” เมียนมา โยง รร.ท่าขี้เหล็ก “ส.ว.ไทย” เจ้าของเก่า

“อุปกิต” แจ้งอีกว่า ได้ขายโรงแรมให้กับ นายชาคริส กาจกำจรเดช โดยปรากฏตามเอกสารสัญญาซื้อขายและกิจการโรงแรมที่นายอุปกิตแนบชี้แจงต่อ ป.ป.ช. สรุปสาระสำคัญได้ว่า สัญญาดังกล่าว ทำที่เขตดุสิต กทม เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2562 ระหว่างนายอุปกิต ปาจรียางกูร อายุ 57 ปี ผู้ขาย กับนายชาคริส กาจกำจรเดช อายุ 59 ปี เป็นผู้ซื้อ

คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายตกลงทำสัญญาซื้อขายฉบับนี้โดยมีเงื่อนไขและข้อตกลง ดังต่อไปนี้

1.ผู้ขายตกลงขายและผู้ซื้อตกลงซื้ออาคารตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล) 3 ชั้น จำนวน 1 หลัง ห้องพักจำนวน 78 ห้อง และกิจการโรงแรมชื่อว่า Allure Resort Hotel Tachileik Myanmar และสิทธิการใช้ประโยชน์บนที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคารดังกล่าว

2.คู่สัญญาได้ตกลงราคาที่ซื้อขายกันดังกล่าวในข้อ 1. ในราคา 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตกลงจะชำระเงินกันภายในเดือน ส.ค. 2562 ให้แก่ผู้ขาย และตกลงชำระเงินให้แก่ผู้ขายในต่างประเทศ

3.คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า ผู้ขายจะส่งมอบการครอบครองและผู้ซื้อจะรับมอบการครอบครองอาคารดังกล่าว ในวันที่ 9 พ.ค. 2562

“อุปกิต” ยังแนบเอกสารธนาคาร B.I.C. (CAMBODIA) BANK PLC. ลงวันที่ 6 ส.ค. 2562 ว่าเงินจำนวน 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯเข้าบัญชีตัวเองแล้ว

สำหรับนายชาคริส กาจกำจรเดช ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ของไทย เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2565 พบว่า เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยทั้งหมดถูกระบุว่าเลิกกิจการไปหมดแล้ว ได้แก่  

  1. บริษัท มังกรนอนกิน จำกัด สถานะเสร็จการชำระบัญชี
  2. บริษัท เฟติก้า จำกัด สถานะเลิก
  3. บริษัท เรอัล สตรองเจอร์ 789 จำกัด สถานะถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า ร้าง
  4. บริษัท เอ มีเดีย พลัส จำกัด สถานะถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า ร้าง

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2565 นายอุปกิต ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยอมรับเคยทำธุรกิจร่วมกับ “ทุน มิน ลัต” จริง และขายโรงแรมท่าขี้เหล็กให้ “ทุน มิน ลัต” ไปแล้ว แต่ไม่รู้เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด และสมคบกันฟอกเงิน

----

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : https://www.justiceformyanmar.org/stories/star-sapphire-companies-funnelling-arms-and-money-to-military

ภาพโรงแรม Allure Resort Hotel Tachileik Myanmar จาก http://www.thelonerider.com