ศาลรับฟ้องคดี “หมอวรงค์” หมิ่น “กัลฟ์” กล่าวหาผูกขาดธุรกิจโทรคมนาคม

ศาลรับฟ้องคดี “หมอวรงค์” หมิ่น “กัลฟ์” กล่าวหาผูกขาดธุรกิจโทรคมนาคม

ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดี “หมอวรงค์” หมิ่นประมาท “กัลฟ์” กล่าวหาผูกขาดธุรกิจอินเทอร์เน็ต-โทรคมนาคม เข้าข่ายทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ดูหมิ่น เกลียดชัง ขึ้นศาลนัดแรก 14 พ.ย.

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “กัลฟ์” เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีไลฟ์สดในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Warong Dechgitvigrom” ของ นพ.วรงค์ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2564 กล่าวหาว่า “กัลฟ์” กำลังจะเข้ามาผูกขาดกิจการสื่อสารและอินเทอร์เน็ต โดยประกาศรับซื้อหุ้น และถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “อินทัช” และจะซื้อหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ “เอไอเอส” รวมทั้งจะเข้าประมูลสัมปทานดาวเทียม และยังกล่าวหาว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ล็อคสเปกให้ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้รับสัมปทานดังกล่าว 

โดยศาลระบุในคำสั่งประทับฟ้องว่า จากการชี้แจงของ “กัลฟ์” ประกอบการพิจารณาเนื้อหา ภาพประกอบการไลฟ์สดของ นพ.วรงค์ พบว่ามีลักษณะเป็นการใส่ความที่ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์ มีวัตถุประสงค์จะผูกขาดเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม และอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์ ทุจริตคอร์รัปชันแก่ข้าราชการและนักการเมือง เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์

พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังได้ในเบื้องต้นว่า การกล่าวถ้อยคำ กระจายข้อความ เสียง รูป และรูปภาพ (คลิป) ในเพจเฟซบุ๊กของจำเลยดังกล่าว เป็นการใส่ความโจทก์ด้วยการโฆษณา โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332 จึงมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา

ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดสอบคำให้การ และตรวจพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลย ในวันที่ 14 ก.ย. 2565 โดยในวันดังกล่าว นพ.วรงค์ ต้องไปให้การต่อศาลด้วยตัวเอง