ลิขิตแห่งดวงดาว ฤาจะสู้บัญชา “จันทร์ส่องหล้า”

ลิขิตแห่งดวงดาว ฤาจะสู้บัญชา “จันทร์ส่องหล้า”

การยึดพรรคเพื่อไทยคืนมาครั้งนี้ คุณพจมาน มาแนวทางปรองดอง สายฮาร์ดคอร์ที่ประเมินว่า จะเห็นสงครามแตกหักเหมือนปี 2553 นั้น ก็คงจะผิดหวัง และคุณหญิงพจมานมีบุคลิกพิเศษ นุ่มนวล แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง สอดรับกับบุคลิกของ “ลุง” บ้านป่ารอยต่อฯ แบบบังเอิญอย่างเหลือร้าย

ในวันที่ทักษิณ ชินวัตร บอกว่า อย่าไปวิเคราะห์กันเยอะ กรณีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ โผล่ที่เวทีครอบครัวเพื่อไทย เชียงใหม่ เป็นเรื่องแม่ให้กำลังใจลูกสาว

ไม่มีเรื่องดีลลับ ไม่มีการเจรจาเพื่อต่อรองให้คนแดนไกลได้กลับบ้าน ซึ่งตัวเขาไม่ซับซ้อนซ่อนปม “กลับก็คือกลับ”

ฟังทักษิณพูดในแคร์คลับเฮาส์แล้ว ลองไปเปิดเว็บไซต์ thaksinofficial อ่านเรื่องราวชีวิตรักทักษิณกับคุณหญิงพจมาน ว่าด้วยเรื่อง “สาวน้อยเซนต์โย..รักแรกพบนักเรียนนายร้อยหนุ่ม”

ทักษิณเล่าถึงวันวานอันแสนหวานว่า “ผมจำได้แม่นยำ ผมพบพจมาน ดามาพงศ์ ครั้งแรก วันที่ 3 พฤษภาคม 2513 วันนั้นเธอสวมกระโปรงชุดสีเขียวตองอ่อนกับดำ รวบผมยาวสลวยติดโบไว้ข้างหลัง ดวงตาโตฉายแววอ่อนโยนใจดี หากมีประกายเด็ดเดี่ยวเร้นอยู่”

ลูกชายเถ้าแก่โรงหนังเชียงใหม่ เจอลูกสาวนายตำรวจครั้งแรก เอ่ยถามคำแรก “น้องอ้อ เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วหรือยังครับ”

สาวน้อยคอนแวนต์วัย 16 ปี เงียบไปชั่วขณะ แล้วอ้อมแอ้มตอบกลับมาว่า “อยู่ ม.ศ.3 เซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ค่ะ”

ทักษิณค้นพบ “บุคลิกพิเศษ” ในตัวคุณหญิงอ้อในวันนั้น “บุคลิกนุ่มนวลที่แฝงความเข้มแข็งในที..น่าประทับใจมากกว่าความสวยธรรมดา และทำให้ผมตกหลุมรักแรกพบ หรือที่เรียกกันว่า Love at first sight ผู้หญิงคนนี้ทันที”

ถ้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ทักษิณช่วงลี้ภัยในต่างแดน เขาจะบอกอยู่เสมอว่า คุณหญิงพจมาน ไม่ชอบการเมือง ดังเช่นในหนังสือ Conversations with THAKSIN ซึ่งทักษิณให้สัมภาษณ์นักข่าวอเมริกัน ปี 2553

เมื่อทักษิณตัดสินใจเล่นการเมืองอีกครั้ง หลังรัฐประหาร 2549 คุณหญิงบอกทักษิณว่า “ไม่ชอบการเมือง แต่เธอเข้าใจดีว่าถ้าผมไม่ต่อสู้ ผมจะไม่มีวันได้กลับบ้าน”

อย่างไรก็ตาม ในหนังสือเล่มเดียวกันนี้ ทักษิณพูดว่า มีผู้หญิง 2 คนที่จะทำให้เขากลับเมืองไทยได้ คนแรกคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอนนั้นเป็นประธานบริหารชินคอร์ป และผู้หญิงอีกคนที่ไม่ระบุชื่อ แต่คนก็รู้ว่าเป็นคุณหญิงอ้อ
 

สำหรับผู้หญิงคนแรก พยายามหาทางช่วยพี่ชายกลับบ้าน ด้วย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ จนกลายเป็นจุดไฟม็อบค้านนิรโทษสุดซอย และบานปลายถึงขั้นยึดอำนาจ

เหลือผู้หญิงที่สอง ที่เพิ่งกลับมาดิสรัปต์พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะพาทักษิณกลับบ้านได้สำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งครั้งหน้า

นับแต่ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม จนมาถึงพรรคไทยรักไทย เปลี่ยนผ่านมาเป็นพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย คุณหญิงอ้อไม่เคยทิ้งพรรค และไม่เคยทิ้งมวลชน เพียงแต่คุณหญิงไม่ปรากฏตัวในแถวหน้า

ลิขิตแห่งดวงดาว ฤาจะสู้บัญชา “จันทร์ส่องหล้า”

การรีโนเวทพรรคเพื่อไทยใน พ.ศ.นี้ คุณหญิงพจมาน มีทั้งสายตรงทั้งสายอ้อม นั่งอยู่ทุกซอกมุมของพรรค

กลุ่มแคร์ เปรียบเสมือนคณะโปลิตบูโร นำโดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากคุณหญิงจันทร์ส่องหล้า

ทั้งเนื้อตัวหมอเลี้ยบคือ จันทร์ส่องหล้า และคืนหนึ่งในรายการแคร์คลับเฮาส์ หมอเลี้ยบพูดนายกฯคนนอก หรือนายกฯก๊อกสอง หลังเลือกตั้งครั้งหน้า

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช มือทำงานและคนรู้ใจของทักษิณ มิได้เป็นนักรบในห้องแอร์ดังที่คนปรามาส เพราะหมอมิ้งยังกุม ส.ส. และ ส.ก.ไว้ในมือ

มินับ แจ๋ว-จุฑารัตน์ เมนะเศวต เพื่อนสมัยเรียน ร.ร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ หรือเพื่อนรหัส “เซนต์โย 1315” ที่ทำงานเชื่อมเพื่อไทยกับจันทร์ส่องหล้าแบบไร้รอยต่อ

แม้ไม่ชอบการเมือง แต่คุณหญิงพจมานเล่นการเมืองหลังม่านมาโดยตลอด เหมือนครั้งที่เธอร่วมกับสามี ให้สัมภาษณ์นิตยสารสกุลไทย ปลายปี 2543

“อ้อเป็นคนไม่ขัดใจ ในเมื่อพี่ทักษิณบอกว่าอยากเล่นการเมืองเพื่อตอบแทนแผ่นดิน..”

อย่างที่ทราบกัน คุณหญิงอ้อแตกต่างจากทักษิณ ตรงที่ชาติตระกูล คนหนึ่งลูกคนจีนภูธร และอีกคนหนึ่ง มาจากตระกูล “ณ ป้อมเพชร” และมีบิดาเป็นนายตำรวจใหญ่

ลิขิตแห่งดวงดาว ฤาจะสู้บัญชา “จันทร์ส่องหล้า”

วันเกิดปีนี้ ทักษิณ ชินวัตร ได้จัดทำคลิปวิดีโอ ชื่อ Long distance call บอกเล่าชีวิต ความหวังและความตาย ตอนหนึ่งทักษิณพูดว่า

“ผมอาจจะโง่เรื่องคน..มันผ่านสังคมกรุงเทพฯน้อยไป สังคมของอีลิท (ชนชั้นนำ)น้อยไป เราไม่ได้อยู่ในสังคมอีลิท แม้ฐานะเราอยู่อีลิท แทนที่จะไปเข้าสังคมอีลิท ไปเข้าการเมือง เลยกลายเป็นคนซื่อบื้อคนหนึ่ง”

คุณหญิงอ้อมีมารดาชื่อ พจนีย์ ณ ป้อมเพชร ลูกสาวของ พ.อ.พร้อม ณ ป้อมเพชร ซึ่งสืบสกุลจากบิดาคือหลวงคลัง (ต่วน) ณ ป้อมเพชร ซึ่งต้นตระกูลของคุณหญิงอ้อนั้น คนละสายกับพระยาชัยวิชิตวิศิษฏ์ธรรมธาดา (ขำ) ผู้รับพระราชทานนามสกุล “ณ ป้อมเพชร์” (มีสะกดการันต์) จากรัชกาลที่ 6

ส่วนบิดาของคุณหญิงพจมานคือ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ อาจกล่าวได้ว่า คุณหญิงอ้อนั้นเติบโตมาในสังคมอีลิท

คุณหญิงจันทร์ส่องหล้า เคยบอกทักษิณว่า “ฉลาดมากเกินไป” ถึงอยู่เมืองไทยไม่ได้ ซึ่งเป็นคำพูดที่แฝงนัยการเมือง สะท้อนวิธีคิดแบบพจมาน จะเน้นปรองดองมากกว่าแตกหัก

ดังนั้น การยึดพรรคเพื่อไทยคืนมาในครั้งนี้ คุณพจมานมาแนวทางปรองดองชัดเจน ฝ่ายต่อต้านสายฮาร์ดคอร์ที่ประเมินว่า จะเห็นสงครามแตกหักเหมือนปี 2553 นั้น ก็คงจะผิดหวัง

เนื่องจากคุณหญิงพจมานมีบุคลิกพิเศษ นุ่มนวลและแฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง สอดรับกับบุคลิกของ “ลุง” บ้านป่ารอยต่อฯ แบบบังเอิญอย่างเหลือร้าย
ลิขิตแห่งดวงดาว ฤาจะสู้บัญชา “จันทร์ส่องหล้า”