“พปชร.” ปั๊มผลงาน ปูทาง “เลือกตั้ง” ล้างตราบาป นโยบายขายฝัน !!!

“พปชร.” ปั๊มผลงาน ปูทาง “เลือกตั้ง”  ล้างตราบาป นโยบายขายฝัน !!!

ต้องลุ้นว่า ประชานิยมฉบับพลังประชารัฐที่เร่งอัดฉีด จะส่งผลอย่างไรต่อกระแสพรรคในสนามเลือกตั้งเที่ยวหน้า ที่ยังมี “3 ป. “ และชูนายกฯ บิ๊กตู่ กู้วิกฤติ

ใกล้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป หลายพรรคการเมืองโดยเฉพาะในปีกรัฐบาลต่างก็เตรียมตัวกันอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังพาตัวเองขึ้นจากหล่มเรื่องนโยบายที่หาเสียงไว้ในคราวที่แล้ว แต่ไม่สามารถทำได้จริง กลายเป็นตราบาปในทางการเมืองไปในที่สุด

ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นับตั้งแต่ขึ้นเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี มีคิวลงพื้นที่ทุกวันจันทร์อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อสังเกตว่า เรี่ยวแรงตอนนี้กลับมาฟิตปั๋ง เดินเหินคล่องแคล่ว แทบไม่ต้องให้ใครพยุง อาจด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยม เหมือนที่เจ้าตัวเคยบอกว่าเพราะมีใจบันดาลแรง 

จุดสำคัญของ พล.อ.ประวิตร ในการลงพื้นที่แทบทุกครั้งในช่วงหลัง หนีไม่พ้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ด้วยความเป็นประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เห็นแผนภาพรวมต่างๆ ที่ได้จัดสรรทรัพยากรลงพื้นที่ไปทั่วประเทศ จึงทำให้มีความมั่นใจถึงกล้าพูดในหลายโอกาสว่าไม่มีแล้ง และจะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 54 อีกด้วย  

ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประวิตร เองก็ถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่เก็บดอกเบี้ยโหดขูดรีดประชาชน จนชาวบ้านหลายคนถูกยึดโฉนดที่ดินสร้างความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง จึงมีการระดมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหา จนเกิดอีเวนท์ทวงโฉนดนำมามอบคืนให้ชาวบ้านกันอย่างคึกคักในช่วงหลายปีที่ผ่าน 

ถึงแม้ตอนนี้ พล.อ.ประวิตร จะหันไปจับงานด้านอื่นก็ตาม แต่ยังมี สมศักดิ์ เทพสุทินรมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ที่คิกออฟโครงการไกล่เกลี่ยหนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ ก.พ.65 ถึงปัจจุบันสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จไปแล้วกว่า 6 หมื่นราย ขณะเดียวกัน สมศักดิ์ ยังมีแนวคิดผลักดันกฎหมายคุ้มครองเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ เช่น วัวชน และไก่ชน เป็นต้น โดยนำรูปแบบการเพาะเลี้ยงม้าของออสเตรเลียมาเป็นโมเดล จะช่วยสร้างช่องทางการตลาด และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกด้วย 

โดยช่วงก่อนหน้านั้น สมศักดิ์ ก็ได้ผลักดันพืชกระท่อมให้ถูกกฎหมายได้สำเร็จ ประชาชนสามารถบริโภค สู้แดดสู้ลม สร้างรายได้กันถ้วนหน้า แต่ยังติดปัญหาตรงที่ยังไม่ได้รับการปลดล็อกจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงไม่สามารถแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าได้  

ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ขณะนี้ก็ได้ผลักดันโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม กระจายลงสู่พื้นที่ โดยเฉพาะของส.ส.พลังประชารัฐ ก็ถูกมองว่าต้องการหวังผลในทางการเมือง

ขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นเจ้ากระทรวง ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ยังผลักดันกฎหมาย PDPA เพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล รวมถึงเดินหน้าแก้ปัญหาสายไฟและสายสื่อสารด้วยการนำลงใต้ดินในหลายจังหวัดทั่วประเทศ   

ทั้งนี้ ไฮไลต์ในส่วนของพลังประชารัฐ หนีไม่พ้นเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเคยเป็นนโยบายหาเสียงตอนเลือกตั้ง ปี 62 ที่ชูตัวเลขไว้ที่ 425 บาท ผ่านไปกว่า 3 ปี ก็ยังไม่สามารถทำได้จริง 

ล่าสุด สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ เตรียมนำเรื่องเสนอที่ประชุม ครม. ในวันที่ 13 ก.ย.นี้ เพื่อให้อนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หลังคณะกรรมการค่าจ้างมีมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปี 65 ประมาณ 5% แบ่งเป็น 9 อัตรา โดย จ.ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต สูงสุด354 บาท ส่วน กทม. นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร อยู่ที่ 345 บาทและที่เหลืออัตราลดหลั่นกันไป เพื่อให้มีผล 1 ต.ค.นี้ 

อย่างไรก็ตาม พลังประชารัฐ ที่เร่งพยายามกอบกู้ภาพลักษณ์ด้วยผลงานในช่วงที่ตัวเองมีอำนาจเช่นนี้ ก็เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง ถึงแม้จะยังทำไม่ได้ตามที่เคยบอกไว้ทั้งหมดก็ตามแต่ถ้าดูจากหลายโครงการที่ทำ ก็ล้วนแต่โฟกัสไปที่ฐานเสียงขนาดใหญ่ คือชาวบ้าน คนหาเช้ากินค่ำ ที่ขัดสนเรื่องรายได้ มีปัญหาเรื่องการทำมาหากิน ก็เพื่อหวังให้คนที่ได้อานิสงส์จากสิ่งที่ทำเทคะแนนเสียงให้นั่นเอง

ที่สำคัญ นโยบายเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรประชารัฐ ถือเป็นอีกไม้เด็ดที่คนในพลังประชารัฐเอาไปใช้ต่อยอด เก็บตกคนที่ยังไม่มีรับบัตร ให้สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้นและบัตรใบนี้ยังมีลูกเล่นให้นักการเมืองเล่นแร่แปรธาตุได้อีกมากมาย เมื่อถึงเวลาคงได้เห็นการท็อปอัพให้เพิ่มเติม  

ต้องลุ้นว่า ประชานิยมฉบับพลังประชารัฐที่เร่งอัดฉีด จะส่งผลอย่างไรต่อกระแสพรรคในสนามเลือกตั้งเที่ยวหน้า ที่ยังมี “3 ป. “ และชูนายกฯ บิ๊กตู่ กู้วิกฤติ