ส.ส.เพื่อไทยรอด! ป.ป.ช.ชี้มูลกราวรูด ผอ.ร.ร. มุกดาหาร-อุบลฯ คดีฟุตซอลฉาว

ส.ส.เพื่อไทยรอด! ป.ป.ช.ชี้มูลกราวรูด ผอ.ร.ร. มุกดาหาร-อุบลฯ คดีฟุตซอลฉาว

ส.ส.เพื่อไทย รอด! ป.ป.ช.ชี้มูลกราวรูด ผอ.ร.ร. ใน จ.มุกดาหาร-อุบลฯ พ่วงเอกชน คดี “สนามฟุตซอล” ฉาวภาคอีสาน ยังเหลือเรื่องกล่าวหาอีก 50 เรื่อง 12 จังหวัด เร่งรวบรวมหลักฐาน-สอบเส้นทางการเงิน คาดสรุปสำนวนปลายปี 65

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2565 นายประทีป  จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 4 ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 แถลงว่าผลคดีสำคัญในเขตพื้นที่ภาค 4 หรือภาคอีสานตอนบน  2 กรณี ในคดี "สนามฟุตซอล" ได้แก่

1.กรณีกล่าวหา นาย ว. ผู้อำนวยการโรงเรียนมุกดาหาร กับพวก ทุจริตในการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบประมาณปี พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 จำนวน 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนมุกดาหาร  โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร และโรงเรียนนวมินทราชูทิศ อีสาน เพื่อใช้จัดจ้างโครงการปรับปรุงสนามกีฬาฟุตซอล พร้อมอุปกรณ์จำนวนโรงเรียนละ 5 ล้านบาท  

2.กรณีกล่าวหานาย ช. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับพวก ทุจริตในการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบประมาณประจำปี 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร จำนวน 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านหนองเอี่ยน และโรงเรียนนาโปใหญ่-โคกสุวรรณ เพื่อใช้จัดจ้างโครงการปรับปรุงสนามกีฬาฟุตซอล พร้อมอุปกรณ์จำนวนโรงเรียนละ 5 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการไต่สวนข้อเท็จจริงทั้ง 2 คดี ปรากฎพยานหลักฐานฟังได้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ร่วมกระทำความผิดโดยทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณปี 2555 ที่นำไปจัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียน  ซึ่งได้มีการวางแผนการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ เพื่อให้กลุ่มเอกชนที่เป็นพรรคพวกของตนเองได้เข้าเป็นคู่สัญญา และยังใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐานในการก่อสร้างจนทำให้สนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ 

ทั้งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติว่า นาย ว. ผู้อำนวยการโรงเรียนมุกดาหาร ได้ถึงแก่ความตาย คดีอาญาย่อมระงับ ส่วน นาย ส. ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาโปใหญ่-โคกสุวรรณ และนาย ช. ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเอี่ยน มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 151, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7  มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547ขณะที่ นาย ส. ผู้อำนวยการโรงเรียนนวมินทราชูทิศ อีสาน และนาย น. ผู้อำนวยการโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร มีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 84 วรรคหนึ่ง 

ส่วนห้างหุ้นส่วนจำกัด จ., บริษัท ว. ผู้เสนอ บริษัท ส. ผู้ผลิตแผ่นยาง ผลิตหนังสือ (ผู้จัดการบริษัท, และบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 268 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 7  และมาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172)ต่างกรรมต่างวาระ 

ขณะที่บริษัท พ และ น.ส.ส จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป ส่วน ผอ.โต้ง ผู้อำนวยการโรงเรียน จังหวัดอุบลราชธานี มีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542  มาตรา 4 มาตรา 7  มาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 94 วรรคสอง

ส่วนนาย น. ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป  ส่วน นาย ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเอี่ยน และนาย ส. ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาโปใหญ่-โคกสุวรรณ มีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 151, 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4,7,10,11,12 ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 84 วรรคสาม  มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง

ทั้งนี้สำหรับความคืบหน้า กรณีไต่สวนข้อเท็จจริง เรื่องการก่อสร้างสนามฟุตซอลหญ้าเทียม หรือสนามกีฬาอเนกประสงค์ (สนามหญ้าเทียม) ในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 50 เรื่อง ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 นั้น คณะกรรมการไต่สวนได้มีมติมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการไต่สวน ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอลหญ้าเทียม หรือสนามกีฬาอเนกประสงค์ (สนามหญ้าเทียม) ในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 50 เรื่อง ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ไต่สวนในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดสระแก้ว โดยได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลุ่มเอกชนผู้รับจ้าง และรวบรวมเอกสารหลักฐาน ตลอดจนตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการสรุปสำนวนเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ธ.ค. 2565)