"ชัชชาติ" จ่อลงพื้นที่ ดูการเก็บผักตบชวา รับ กังวล "น้ำท่วม" แบบปี54

"ชัชชาติ" จ่อลงพื้นที่ ดูการเก็บผักตบชวา รับ กังวล "น้ำท่วม" แบบปี54

"ชัชชาติ" จ่อ ดูการเก็บผักตบชวา สัปดาห์หน้า หลัง ประวิตร ส่งทหารช่วย เผย ทำงานไร้รอยต่อ พร้อมเตรียมหารือ นายก อบจ.ปทุมธานี รับมือสถานการณ์น้ำ สั่ง กทม. ทำ scenario planning ไว้ หากฝนตก100ปีแบบที่นักวิชาการคาด รับ กังวลน้ำท่วม แบบปี 54 ขออย่าตระหนก แต่ต้องตระหนัก

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกถึงกรณีที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีโทรศัพท์มาช่วยนำกำลังทหารช่วยขุดลอกคูคลองเพื่อกำจัดผักตบชวาในพื้นที่ กทม. นั้น ว่า หลังจากท่านประสานมาครั้งแรก ว่าต้องการอะไรให้แจ้งไป ตนเองก็ได้ให้รองผู้ว่ากทม.และที่ปรึกษาผู้ว่ากทม.ไปดูความต้องการ ก็เริ่มจากการเรียงกระสอบทรายที่จุดฟันหลอ ซึ่งได้ดำเนินเสร็จแล้ว และยังมีผักตบชวา อีก13คลองของกทม. ซึ่งกทม.ก็พยายามทำแล้วแต่ไม่ไหว จึงได้เรียนท่านพลเอกประวิตรไป ท่านก็ส่งกำลังมาและคาดว่าน่าจะเริ่มทำแล้ว โดยสัปดาห์หน้าตนเองจะลงไปตรวจเยี่ยมด้วย และมองว่าเป็นเหตุการณ์ปกติ เพราะทหารก็ช่วย กทม.มาตลอด แต่ช่วงนี้ มีฝนมากขึ้น และมีน้ำเหนือลงมา มีน้ำทะเลหนุนจึงทำให้ต้องเร่งกระบวนการ

ส่วนเรื่องผักตบชวา พลเอกประวิตรแจ้งว่า ที่ผ่านมา ทำนอกพื้นที่กทม. ส่วนในกทม.อาจจะยังไม่ได้ทำมาก อาจจะช่วยเหลือในมิติอื่น ดังนั้นจึงให้เขามาช่วยเพราะมีอุปกรณ์ รวมถึงทหารยังมีอุปกรณ์ที่มาช่วยเหลือในมิติอื่นเช่นเรือผลักดันน้ำด้วย ทั้งนี้การขอความร่วมมือกับทหาร ก็จะขอเป็นเคสบายเคส และมีการประสานกันทั้งเรื่องการส่งรถมาช่วยขนคน ซึ่งการทำงานในตอนนี้กับทหารถือว่าไม่มีรอยต่อ มีการประสานความช่วยเหลือกัน

และมองว่าการรับมือน้ำท่วมจะต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน โดยหลังจากนี้จะต้องหารือกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เพราะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง และปทุมธานีจะรับน้ำจะรับมาก่อนผ่านคลองรังสิต ลงมาคลองหกวาสายล่าง ซึ่งหลายอย่างที่กทม.มีปัญหาด้านตะวันออก ก็ต้องหารือให้ดี และจะต้องไปหารือ กับนายกเทศบาลรังสิต รวมถึงเชิญชลประทานมาหารือด้วย ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ดี ดังนั้นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอาจจะต้องหารือกันทุกพื้นที่

ส่วนกรณีที่นักวิชาการ มองว่า ฝนจะหนักในช่วย ก.ย.-พ.ย. และอาจจะเจอปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในระดับฝน 100 ปีนั้นมองว่า เป็นการคาดการณ์ ซึ่งกทม.ก็จะเตรียมตัวไว้ และเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด โดยกทม.ได้ทำ scenario planning ซึ่งหากเป็นในปริมาณฝน100ปี ที่เป็นฝนตกขนาดใหญ่หน่วยงานเราหน่วยงานเดียวคงทำไม่ได้ จึงทำแผนป้องกันภัยพิบัติขึ้นมา และจะต้องหารือกับ ปภ. และกรมชลประทาน เพื่อบูรณาการ ทั้งนี้ การทำ scenario planning ซึ่งคล้ายๆแบบจำลอง ก็ต้องมีหลายๆหน่วยงานร่วมกัน เพื่อเตรียมรับมือด้วย

ทั้งนี้ กังวลหรือไม่ว่า จะเป็นแบบปี54นั้น นายชัชชาติ บอกว่า ก็มีกังวล แต่ก็ดูความเป็นไปได้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ และหากมีทรัพยากรจำกัด ก็ต้องบาลานซ์ให้สมดุล และนำการประสานงานทรัพยากรของหน่วยอื่นมาร่วมกัน และมองว่าเราต้องไม่ตระหนก แต่ตระหนักไว้ และความเป็นไปได้ของการประมาณอีก2เดือนไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งกทม.ก็รับฟังทุกความเห็น แต่ไม่ได้ตระหนกเกินเหตุ เพราะหลายนักวิชาการก็มีความเห็นยังไม่ตรงกัน โดยพร้อมรับฟังหลายๆท่าน และก็นำมาประมวล ซึ่งก็ขอบคุณทุกความเห็นที่คอยเตือน และก็จะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น