รทสช.ดัน “พีระพันธุ์” เบอร์หนึ่ง สลัดคราบสาขา “ประยุทธ์-สุเทพ”

ครบ 1 เดือนเปิดตัว “เดอะตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นั่งเก้าอี้หัวหน้า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” มี "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค ทุกองคาพยพของพรรคได้ถูกเซ็ตอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมลงสู้ศึกเลือกตั้ง

แม้ขณะนี้ ทุกพรรคการเมือง จะรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ที่จะส่งผลต่อสมการการเมืองภาพรวม แต่สำหรับ รทสช.กลับซุ่มเดินหน้าไปต่อ ไม่เสียเวลารอลุ้น 

“รทสช.”รอจังหวะ ประกาศความชัดเจน ในการชู “พีระพันธุ์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรค โดยไม่ยึดโยงกับประเด็นสถานะของ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร

เพื่อเคลียร์ข้อครหา ข้อกังขาว่า “รทสช.” เป็นพรรคสำรองของนายกฯ ประยุทธ์ หรือพรรคสาขาของ “กำนันสุเทพ”  แม้จุดเริ่มต้นของ “รวมไทยสร้างชาติ” จะมีที่มาจาก “บิ๊กตู่” และการขับเคลื่อนของ “แรมโบ้” แต่มาถึงจุดนี้ ทุกฝ่ายเคลียร์กันลงตัว 

ขณะที่บรรดา “แกนนำ รทสช.” มีข้อสรุปแล้วว่า ต้องปรับการสื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค จะไม่มีการให้ข้อมูลในการหาเสียงว่า ชู “ลุงตู่” เป็นนายกฯ ของพรรค 

แม้การสลัดคราบการเป็นพรรคสำรอง จะเชื่อได้ยาก แต่เมื่อถึงเวลาการชูผู้นำพรรค “พีระพันธุ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ บรรดาแกนนำพรรค ก็มั่นใจว่า จะเกิดความชัดเจน  ขณะที่เบื้องลึกเบื้องหลังนายกฯ“ประยุทธ์” ก็ยังสนับสนุนพรรคนี้อยู่ แต่ก็ด้วยสัมพันธ์อันดีกับ “พีระพันธุ์” ที่เป็นมือทำงานให้รัฐบาลหลายๆ เรื่อง
 

ต้องจับตา ก้าวแรกที่ “แกนนำ รทสช.” เตรียมแผนปฏิบัติการลอกคราบจากพรรค “ประยุทธ์” คือการเสนอให้หัวหน้า “พีระพันธุ์” ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อมาขับเคลื่อน รทสช.ในฐานะ “เบอร์หนึ่ง” ของพรรคอย่างเต็มตัว แม้ตำแหน่งนี้ในอีกด้านจะเป็นผลดีต่อการทำกิจกรรมในพื้นที่ ในการช่วยเหลือประชาชนก็ตาม 

สำหรับเป้าหมายหลักของ “รทสช.” อยู่ที่พื้นที่ ภาคใต้-กทม.-ภาคกลาง-ภาคเหนือตอนล่าง โดยพยายามชิงแต้มจากฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะอ่านกระแสในพื้นที่เป้าหมายแล้ว แฟนคลับ ปชป.บางส่วน ที่เลือกเทคะแนนให้ พปชร. ในการเลือกตั้งปี 2562 จะไม่กลับไปเลือกทั้ง ปชป. และ พปชร.อีก

แม้ว่า กลุ่มดังกล่าวยังไม่ตัดสินใจว่า จะเทคะแนนให้พรรคการเมืองใด แต่ก็ยังเป็นโอกาสให้ “รทสช.” พยายามเข้าไปแทรกตัวเป็นทางเลือก เพราะถือเป็นฐานคะแนนเสียงที่ค่อนข้างมาก และสามารถสวิงไปมาได้

ที่สำคัญหาก “รทสช.” สามารถออกนโยบายโดนใจ และมีจุดยืนทางการเมืองที่แข็งแรง การเจาะฐานเสียง กลุ่มคนเบื่อ “ปชป.-พปชร.” ย่อมมีโอกาสทำคะแนนได้พอสมควร เนื่องจากตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ถูกคัดมาจากคนที่มีฐานเสียงในระดับท้องถิ่นอยู่แล้ว

เมื่อส่องลงไปในรายละเอียดพื้นที่  อาทิ จ.ชุมพร นำทีมโดย “จุลใสบราเดอร์” ทั้งลูกหมี “ชุมพล จุลใส” อดีตส.ส.ชุมพร ปชป. อดีตแกนนำกปปส. และ ลูกช้าง “สุพล จุลใส” ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลัง ที่เตรียมย้ายเข้าค่าย “รทสช.”
 

นอกจากนี้ ยังมี “พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว” นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งสามารถเอาชนะ ชุมพล กาญจนะ ผู้สมัครนายก อบจ. สุราษฎร์ธานี จาก ปชป.มาได้ 

ที่สำคัญคนแดนหอยใหญ่ “พงษ์ศักดิ์” เดินคนละสายกับ “กำนันสุเทพ” จึงไม่ต้องกลัวเสียแต้มการเมือง และยังเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนว่า รทสช.ไม่ใช่สาขา ไม่มีการฮั้ว การหลีกให้กับพรรคลุงกำนัน 

ส่วน “ตระกูลธรรมเพชร” นำโดย “วิสุทธิ์ ธรรมเพชร” นายก อบจ.พัทลุง ตัดสินใจมาลงหลักปักฐานกับ “รทสช.” โดย “วิสุทธิ์” พาลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “นิติศักดิ์ ธรรมเพชร” หรือ “เสี่ยเดี่ยว” ในวัย 30 เศษๆ มาร่วมงานด้วย ถูกวางตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 เอาไว้เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับพื้นที่ กทม. “รทสช.” ยังได้แรงหนุนจาก “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษา คอยเป็นแบ็คอัพ ช่วยคัดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. โดยพื้นฐานของ “ณัฏฐพล” ยังพอมีเครือข่ายในกทม.ที่พอเชื่อมือได้

เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคกลาง “แกนนำ รทสช.” มีตัวผู้สมัครในดวงใจหลายพื้นที่ ทั้งโดยเฉพาะ ส.ส. เกรดเอ จากค่ายสีฟ้า ที่ไม่ใช่สายตรงผู้มีอำนาจในพรรค เตรียมเก็บข้าวของตามออกมาไม่น้อยเช่นกัน  เพราะเห็นว่า “รทสช.” เป็นพรรคเป้าหมาย ที่พอเจรจากันได้

ตั้งแต่กลางเดือน ก.ย.นี้ “รวมไทยสร้างชาติ” เตรียมคิกออฟ เปิดตัว “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.” ภาคใต้ ไล่เรียงกันไป โดยเริ่มด้วยผู้สมัครหน้าใหม่  ส่วนบรรดาผู้สมัครที่เป็นระดับ “ส.ส.” เตรียมเปิดตัวลอตใหญ่ ปลายปี หลังเอเปค หรือก่อนหน้า หากมีการยุบสภา

ความพยายามในการล้างคราบลุงตู่ ลุงกำนัน หนีกระแสเบื่อ 8 ปี และการมีต้นทุน ส.ส.เขต เป็นจุดเริ่มต้น ทำให้ รทสช.กล้าวางเป้าหมาย ก้าวสู่พรรคขนาดกลาง ที่มั่นใจว่าจะกวาด ส.ส.เข้าสภาให้ได้อย่างน้อย 40 ที่นั่ง