กก.จริยธรรม ส.ว. ขีดเส้น60วันสอบ"ธานี" โยงส.ต.ท. ยันผิดร้ายแรงชงป.ป.ช.ฟัน

กก.จริยธรรม ส.ว. ขีดเส้น60วันสอบ"ธานี" โยงส.ต.ท. ยันผิดร้ายแรงชงป.ป.ช.ฟัน

มติ"กก.จริยธรรม ส.ว." รับคำร้อง2เรื่อง ขีดเส้น60วันสอบ"ธานี" โยงส.ต.ท. เตรียมเรียกเอกสารตร.-กองทัพ- กอ.รมน. สอบปมช่วยราชการ "ส.ว.สมชาย" ชี้โทษตั้งแต่ตำหนิ-ตักเตือน แต่หากพบผิดร้ายแรงชงป.ป.ช.ฟัน

 ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติรับคำร้องทั้ง 2 เรื่อง ของนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ยื่นให้ตรวจสอบจริยธรรมนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม โดยคณะกรรมการจริยธรรมฯจะเริ่มพิจารณาในวันที่ 5 ก.ย. วันที่ 8 ก.ย. และ 10 ก.ย.นี้

ซึ่งจะใช้คณะกรรมการจริยธรรมฯเต็มคณะ และพิจารณาอย่างรวดเร็วตามบังคับตามกรอบ 60 วัน แต่หากได้ข้อยุติเร็วกว่านั้นก็จะรีบดำเนินการ หากมีประเด็นเพิ่มเติมก็จะพิจารณาว่าควรขยายวันพิจารณาหรือไม่

นายสมชาย กล่าวว่า ประชุมยังมีมติเรียกเอกสารข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองบัญชาการกอทัพไทย กอ.รมน. และกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย อีกทั้งจะเรียกเอกสารทั้งหมดของส.ว.ในการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่งใดๆ ในกมธ.ชุดไหนอย่างไร โดยแบ่งเป็นช่วงที่เกี่ยวพันกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับช่วง ส.ว.

ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ คณะกรรมการจริยธรรมฯจะเชิญ นายวัชระ เข้าให้ข้อมูลเป็นคนแรก ส่วนนายธานีนั้น เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะเชิญมาให้ข้อมูลจากการประชุมนัดถัดไป

ส.ว.ให้ความสำคัญในการตรวจสอบเรื่องนี้ จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา รวดเร็ว ตามกฎหมาย ปฏิบัติตามข้อจริยธรรม ยืนยันว่าเราให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เำพราะนายธานี ก็เป็น ส.ว.ด้วยกัน และท่านก็แถลงข่าวว่า ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ไปหาผลประโยชน์ใดๆ เราต้องให้ควมเป็นธรรมกับท่านด้วย เราต้องเห็นข้อมูลทั้งหมด เห็นจากสื่อไม่พอ ส่วนภาพที่คุณนายวัชระ มามอบในวันนี้ก็เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการประกอบการพิจารณาเท่านั้นเอง เพราะคนเราก็ไปทอดกฐินผ้าป่ากันอยู่แล้ว แต่ไม่ตัดประเด็นนี้ ก็ต้องเอามาดูก่อน จากนั้นก็ให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องชี้แจง หากชี้แจงได้ตัดไป หากชี้แจงไม่ได้ก็บวกเอาไว้ เพราะเราต้อ เสนอความเห็นต่อประธานส.ว. และที่ประชุมส.ว.ว่าผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งการทำบุญครเราทำร่วมกันได้อยู่แล้ว” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ประเด็นที่คณะกรรมการจริยธรรมฯจะพิจารณาในขณะนี้ โดยจะนำประเด็นทั้งหมดมาพิจารณาเพราะมีหลายเรื่องที่เรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง เช่น การใช้อำนาจหน้าที่ใมนการแต่งตั้ง ตามที่นายธานี ได้ปฏิเสธไปแล้ว ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่ทราบ จึงมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการส.ว.นำเอกสารทั้งหมดมาพิจารณาในที่ประชุมวันที่ 5 ก.ย.นี้ ว่ามีทั้งหมดกี่ตำแหน่ง ทั้งประเด็นเลขานุการ ที่ปรึกษา และการส่งไปฝึกอบรม การรับเงินเดือน และอยู่ในกมธ.ชุดใด

ดังนั้นเราจึงไม่สามารถบอกได้ว่าผิดหรือถูก เพราะมันมีระเบียบบุคคลภายนอกให้เข้ามาช่วยงาน หากเขาดำเนินการถูกระเบียบก็ต้องว่ากันไป ยืนยันว่าคณะกรรมการจริยธรรมฯทุกคนพร้อมพิจารณาเรื่องนี้โดยไม่มอบอนุคณะกรรมการจริยธรรมฯมาช่วย เราทำงานอย่างหนักอาทิตย์ละ 2 วัน

เมื่อถามว่า การตรวจสอบในครั้งนี้จะถูกวิจารณ์ถึงความน่าเชื่อถือไม่เพราะเป็นการตรวจสอบกันเองภายใน นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้เราไม่เป็นห่วง เพราะมีประธาน ตรวจสอบเป็นถึงรองประธานส.ว.คนที่หนึ่ง และคณะกรรมหลายคนก็เป็นประธานกมธ.ชุดต่างๆ ล้วนมีชื่อเสียงทางสังคม มีชื่อเสียงทางด้านซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา ตนคิดว่าเรื่องใดถูกผิดต้องพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องกังวลว่าจะไปช่วยหรือฮั้วกับใคร แต่หากอะไรไม่ผิดแล้วเราไปลงมติกล่าวหาก็ไม่ถูกต้อง ยืนยันคณะกรรมการจริยธรรมฯทำงานเรื่องนี้มาตลอดมีมาตรฐาน 

เมื่อถามว่า ข้อเสนอของนายวัชระ ที่ขอให้เชิญพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาให้ข้อมูลนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณา ถือเป็นข้อมูลหนึ่งที่อาจพิจารณาว่าจะเชิญหรือไม่ ซึ่งต้องดูตามเอกสารที่เราจะขอไปก่อนตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเพียงพอหรือยัง

เมื่อถามอีกว่า ส่วนผลการพิจารณาจะมีบทลงโทษระดับไหนนั้น นายสมชาย กล่าวว่าหากไม่ร้ายแรงก็อาจจะมีบทลงโทษเป็นการตำหนิ ตักเตือน หรือหากเห็นว่าร้ายแรงก็ต้องส่งต่อไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป และคงไม่ประสานขอข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราาษฏร ที่มีการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะเราทำหน้าที่ตัวเองได้ เป็นสภาที่มีวุฒิภาวะอยู่แล้ว มีความหนักแน่นตามข้อกฎห