“วิษณุ” แนะ ยุบสภา ต้องหาเหตุให้ดี ชี้ ตอนนี้ยังมองไม่เห็น อย่าเชื่อข่าวลือ

“วิษณุ” แนะ ยุบสภา ต้องหาเหตุให้ดี ชี้ ตอนนี้ยังมองไม่เห็น อย่าเชื่อข่าวลือ

“วิษณุ” เผย หาก “ยุบสภา” ทั้งที่กฎหมายเลือกตั้ง ไม่เสร็จ “กกต.” ต้องออก “ข้อกำหนด-พรก.” จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ รับ ไม่เห็นด้วยถ้าเป็น “พรก.” ระบุ “ยุบสภา” ต้องรอบคอบ นึกเหตุให้ดี ตนจะได้เขียนถูก แต่ตอนนี้ยังไม่เห็น แจง “กนกวรรณ” โดนพักงาน จะถูกหักเงินเป็นรายวัน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หากมีการประกาศยุบสภาระหว่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งยังไม่มีผลบังคับใช้ ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะต้องเป็นผู้ออกข้อกำหนดหากมีการยุบสภาหรือออกเป็นพระราชกำหนด (พรก.) โดยใช้กฎหมายลูกที่ กกต. เห็นชอบแล้วออก พรก. โดยไม่มีการแก้เนื้อหาโดยเด็ดขาด ซึ่งในอดีตไม่เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นแต่หากมีการนำมาใช้ก็จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคต อย่างไรก็ตามตนยังไม่เห็นด้วยกับการออก พรก. เพราะเกรงว่าจะเกิดการแก้ไขเนื้อหา 

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายพรรคการเมือง ยังมาไม่ถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ 

ส่วนกรณีที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เตรียมล่ารายชื่อเพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้กระบวนการล่าช้าหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ก็เป็นส่วนที่ทำให้กระบวนการล่าช้า แต่ขณะนี้ยังไม่มีการยุบสภา ก่อนถามกลับผู้สื่อข่าวว่าตั้งคำถามเหมือน ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการยุบสภา 

ส่วนอำนาจรักษาการนายกรัฐมนตรี นั้น นายวิษณุ ย้ำว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่ามีอำนาจในการยุบสภา ปรับครม. และมีอำนาจเต็มทุกอย่างตามทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติต้องพิจารณาหลายอย่างให้รอบคอบ เพราะการยุบสภาไม่ใช่การนำกระดาษมาแล้วเขียนยุบสภา แต่ต้องมีขั้นตอนทูลเกล้าฯ ถวาย และต้องมีคำอธิบายว่าเพราะเหตุใด ซึ่งตนนึกไม่ออกว่าจะมีเหตุอะไรให้เกิดการยุบสภา เพราะหากจะยุบสภาต้องนึกเหตุให้ดีตนจะได้เขียนถูก แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องอะไร และโดยปกติแล้วจะต้องมีเหตุสภาขัดแย้งกันกับรัฐบาล หรือรัฐบาลแพ้โหวตในสภา จึงจะเป็นเหตุให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นขออย่าเชื่อข่าวลือ

นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลสั่งนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่จ.ปราจีนบุรี ว่า ไม่มีปัญหาอะไรเพราะ นางกนกวรรณ เป็นรัฐมนตรีช่วย เมื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่อำนาจก็จะกลับสู่รัฐมนตรีว่าการ และยังไม่มีเหตุให้นำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีที่ถูกศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่จะถูกหักเงินไปเป็นรายวัน ตามจำนวนวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น