"ประวิตร" ห่วงน้ำท่วม สายด่วน "พ่อเมืองอยุธยา" บูรณาการทุกหน่วยงานแก้ไข

"ประวิตร" ห่วงน้ำท่วม สายด่วน "พ่อเมืองอยุธยา" บูรณาการทุกหน่วยงานแก้ไข

"พล.อ.ประวิตร" ต่อสายถึง "ผู้ว่าฯ อยุธยา" กำชับเร่งแก้น้ำท่วม ระดมทุกหน่วยงานร่วมมือคลี่คลายสถานการร์ และรุดช่วยเหลือเยียวยาประชาชน

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์ถึงนายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อกำชับ และสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาประสบอุทกภัย พร้อมกับเร่งรัดให้หน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะกรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมมือทำงานแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ให้ระดับน้ำไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน ทั้งนี้ ได้กำชับ สทนช.ให้บูรณาการในการบริหารจัดการน้ำในการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาไปทางฝั่งตะวันตก ตะวันออก และท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเชื่อมโยงไปแต่ละจังหวัดที่มีทางน้ำผ่านไปสู่ทะเลซึ่งรวมถึง กทม. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลกระทบกับประชาชน

\"ประวิตร\" ห่วงน้ำท่วม สายด่วน \"พ่อเมืองอยุธยา\" บูรณาการทุกหน่วยงานแก้ไข

       ทั้งนี้พล.องประวิตร ได้สั่งการให้หน่วยงานตรวจสอบเครื่องจักรเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ระบบไฟ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง เพื่อให้การเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว ขณะเดียวกัน ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมทันที  ทั้งเจ้าหน้าที่ ปภ. หน่วยทหาร ตำรวจ หน่วยงานจิตอาสา ในการอำนวยความสะดวกในการสัญจร สิ่งของที่จำเป็นการในดำรงชีพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพ ที่อาจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ

         สำหรับ จ.พระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 7 อำเภอ ได้แก่ บางบาล บางปะหัน เสนา ผักไห่ บางไทร พระนครศรีอยุธยา และท่าเรือ รวม 75 ตำบล 340 หมู่บ้าน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา โดยกรมชลประทาน ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าแล้ว พร้อมได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนในพื้นที่