"ประวิตร" หารือ รมต.อาวุโส มาเลย์ เร่งผลักดันโครงการคั่งค้าง ให้เป็นรูปธรรม

"ประวิตร" หารือ รมต.อาวุโส มาเลย์ เร่งผลักดันโครงการคั่งค้าง ให้เป็นรูปธรรม

"ประวิตร" หารือ รมต.อาวุโส กระทรวงโยธาธิการ มาเลเซีย พร้อมร่วมกันผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทย – มาเลเซีย ให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม

ที่ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ (YB Dato' Sri Haji Fadillah bin Haji Yusof) รัฐมนตรีอาวุโสกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อหารือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทยและมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

\"ประวิตร\" หารือ รมต.อาวุโส มาเลย์ เร่งผลักดันโครงการคั่งค้าง ให้เป็นรูปธรรม

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีอาวุโสฯ และคณะในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกันเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อประเทศไทยกับมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันไว้ เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตลอดจนเป็นโอกาสหารือแนวทางเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันจัดประชุมกลไกความร่วมมือเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ ให้มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อประเทศไทยและมาเลเซีย 

\"ประวิตร\" หารือ รมต.อาวุโส มาเลย์ เร่งผลักดันโครงการคั่งค้าง ให้เป็นรูปธรรม

รัฐมนตรีอาวุโสฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่อำนวยความสะดวกในการเยือนไทยเป็นอย่างดีรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย และเพื่อหารือความคืบหน้าของการดำเนินโครงการความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งไทยและมาเลเซียได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โครงการต่างๆ ระหว่างกัน มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ซึ่งทางคณะได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีจากหน่วยงานไทย โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง การออกแบบ และการซ่อมบำรุง ซึ่งหน่วยงานของไทยมีศักยภาพสูง โดยฝ่ายมาเลเซียจะได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปเป็นแนวปฏิบัติต่อไป 

ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางการผลักดันโครงการความเชื่อมโยงที่คั่งค้างระหว่างกันให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก – ลก ณ อำเภอสุไหงโก – ลก(สุไหงโก – ลก – รันเตาปันยัง) แห่งที่ 2 และการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก – ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส – เปิงกาลันกูโบร์ มาเลเซีย ซึ่งรัฐมนตรีอาวุโสฯ พร้อมเร่งรัดการดำเนินในรายละเอียดให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว รวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ – ด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม มาเลเซีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group: EWG) ไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถเปิดใช้ด่านศุลกากรแห่งใหม่ได้โดยเร็ว 

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า โครงการความเชื่อมโยงเหล่านี้ จะสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนมากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ