เช็กลิสต์เส้นทาง "คำร้อง" วินิจฉัยปมร้อน 8 ปี "ประยุทธ์"

วันที่ 24 ส.ค.2565 จะเป็นวันที่หลายฝ่ายกำลังติดตามผลการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า จะมีการนำเรื่องที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยื่นคำร้องจากกรณีที่ 171 ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลเข้าชื่อถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณา รับหรือไม่รับไว้วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

สำหรับประเด็นที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึง "วาระ" ดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ขณะนี้ มีการ "ตีความ" ระยะเวลาสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 แนวทางประกอบด้วย 

1.นับวันที่ 24 ส.ค.2557 ที่พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 โดยแนวทางนี้จะเหลือเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีได้ถึง 23 ส.ค.2565

2.นับวันที่ 6 เม.ย.2560 ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ประกาคใช้เมื่อ 6 เม.ย.2560 ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 158 วรรคสี่ โดยพล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบเทอม 4 ปีในปี 2566 หากการเลือกตั้งครั้งหน้าได้รับเลือกเป็นนายกฯอีกครั้ง จะเป็นได้อีก 2 ปี และพ้นตำแหน่งในวันที่ 5 เม.ย.2568

3.นับวันที่ 9 มิ.ย.2562 ที่มีการโปรดเกล้าฯให้เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งใหญ่ 24 มี.ค.2562 โดยแนวทางนี้ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นนายกฯ ต่อเนื่องได้ 8 ปี ถึงวันที่ 8 มิ.ย.2570 หากได้รับเลือกเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ขณะเดียวกัน "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ตรวจสอบไทม์ไลน์การยื่นคำร้องและคำถามไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการนับการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ มีดังนี้

1.วันที่ 5 ส.ค.65 

"ศรีสุวรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ทั้งสองหน่วยงาน เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เกี่ยวกับสถานะนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค.2565

กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ 2 ครั้ง แบ่งเป็น ครั้งที่ 1 วันที่ 24 ส.ค.2557 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 และครั้งที่ 2 วันที่ 9 มิ.ย.2562 ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้ขณะนี้มีข้อถกเถียงในสังคมต่อเรื่องดังกล่าว โดยมีความเห็นแบ่งเป็น 3 ทาง

อย่างไรก็ตามสถานะคำร้องของนายศรีสุวรรณ ที่ยื่นไปถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ถูกตีตกไปเมื่อวันที่ 18 ส.ค.65 และ 22 ส.ค.65

2.วันที่ 16 ส.ค.65 

คณาจารย์คณะนิติศาสตร์จำนวน 51 คน จาก 15 มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย 1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3.มหาวิทยาลัยทักษิณ 4.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 5.มหาวิทยาลัยนเรศวร 6.มหาวิทยาลัยบูรพา 7.มหาวิทยาลัยพะเยา 8.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 9.มหาวิทยาลัยรังสิต 10.มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร 11.มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 12.มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ 13.มหาวิทยาลัยรามคำแหง 14.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ 15. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ส่งจดหมายถึงประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในประเด็น “การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี” 

โดยมีเนื้อหาระบุถึงตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ได้บัญญัติไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ …” พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 จะเป็นนายกฯ ครบ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค. 2565 จึงเกิดประเด็นปัญหาในข้อกฎหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงนายกฯ ต่อไปหลังจากวันที่ 24 ส.ค.ได้หรือไม่?

3.วันที่ 17 ส.ค.65

171 ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภา ขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งล่าสุดวันที่ 22 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทน ราษฎร ได้งหนังสือคำร้องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย วาระการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว

อย่างไรก็ตามยังมีความความเคลื่อนไหวจาก "โครงการเสียงประชาชน" และนักวิชาการ 8 สถาบัน ร่วมกับสื่อมวลชน 8 สำนักข่าว ประกอบด้วยสื่อทีวีดิจิทัล และสื่อออนไลน์ ออกแคมเปญเปิดโหวตเสียงประชาชน เรื่อง 8 ปี นายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20-21 ส.ค.ที่ผ่านมากับประเด็นที่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปีหรือไม่ โดยเป็นการโหวตผ่าน QR code มีผลสรุปว่า  93.17 % มีความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรอยู่เกิน 8 ปี และอีก 6.83 % สนับสนุนให้อยู่เกิน 8 ปี