“สมช.” เผย “นายกฯ” สั่ง ยกระดับ ป้องกันเหตุรุนแรง “ชายแดนใต้” ไม่ให้เกิดอีก

“สมช.” เผย “นายกฯ” สั่ง ยกระดับ ป้องกันเหตุรุนแรง “ชายแดนใต้” ไม่ให้เกิดอีก

“เลขาฯสมช.” เผย “นายกฯ” สั่ง “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ยกระดับมาตรการ หลัง เหตุระเบิด ชายแดนใต้ ย้ำ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก รับ อาจโยงบริบทการเมือง แต่ต้องนำหลายปัจจัยมาพิจารณา ปัด ไม่เกี่ยวข้องกับการถก ร่างงบประมาณ ปี 66

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า มีการประชุมหน่วยข่าวในพื้นที่เป็นการเร่งด่วนเมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) เพื่อรับฟังปัญหา และมอบแนวทางตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า นายกฯ สั่งการให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดในการยกระดับมาตรการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ไม่ให้มีความเสียหายต่อประชาชนและทุกฝ่าย รวมถึงระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ารับไปดำเนินการ

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคือการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุร้ายเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว มีความยุติธรรม และเป็นไปตามขั้นตอน จากนั้นต้องปรับระบบการทำงานในเรื่องความมั่นคง ทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุข มาตรการรักษาความสงบ และเดินหน้าทำความเข้าใจ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้มากขึ้น 

เมื่อถามว่า มีการรายงานเบาะแสถึงการก่อเหตุในพื้นที่อย่างไรบ้าง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การรายงานข่าวมีอยู่แล้ว โดยการก่อเหตุครั้งนี้ ได้ปรับเปลี่ยนตัวผู้ก่อเหตุ แต่น่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่ดำเนินการ ส่วนรายละเอียดนั้นให้รอฟังการสอบสวนของตำรวจ

เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเชื่อมโยงกับเรื่องของการเมือง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การเมืองในมิติของการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือความต้องการในบริบทที่เกี่ยวกับการเมือง จะดำเนินการคู่ขนานกับการใช้กำลังด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เพื่อก่อเหตุรุนแรงจึงมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และตำรวจ อยู่ระหว่างดำเนินการ ขอให้รอฟังความชัดเจน

เมื่อถามว่า ประเมินเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างไร พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า การก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมายเปราะบาง เป็นพื้นที่ที่ประชาชนดำเนินชีวิตประจำวัน เช่นร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า กระทบกับเศรษฐกิจแน่นอน รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งแก้ไข ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงมีการก่อเหตุในช่วงปลายปี ลักษณะเหมือนเป็นวงรอบ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เป็นจังหวะของเหตุการณ์ หากติดตามการแก้ไข ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่มีความคืบหน้าและพูดคุยกันบ่อยครอบคลุมและกว้างขวางมากขึ้น ดังนั้น กลุ่มที่เข้ามามีส่วนในปัญหามีความต้องการแตกต่างกันไป เป็นเทคนิคที่จะต้องพยายามตอบสนอง ในขณะที่ประเทศไทยต้องการให้ภาคใต้เป็นพื้นที่สงบสุข อยู่ร่วมกันได้ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม เศรษฐกิจดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องนำมาผสมและปรับไปเรื่อยๆ เพื่อให้แต่ละฝ่ายบรรลุวัตถุประสงค์ความต้องการของตัวเอง

เมื่อถามว่า การก่อเหตุเกิดในช่วงที่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะถ้าดูในรายละเอียดแผนงาน โครงการที่ลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจมากที่จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพและงานทำ อยู่ร่วมกันได้ และมีความเจริญ