"ฝ่ายค้าน" ได้ที ตะเพิด "ประยุทธ์" ชี้จัดงบ66 ทิ้งทวน-เอื้อประโยชน์การเมือง
"พริษฐ์" แกะรอย งบ66 ซัดจัดสรรเพื่อประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าประชาชน ยกเคสซ่อมถนน-แหล่งน้ำ เอื้อ2 พรรคใหญ่ ด้าน "พิเชษฐ์" ตะเพิด "นายกฯ" ก่อน24สิงหา - "จิรายุ" ชี้ทำงบแบบทิ้งทวน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระสอง เป็นวันแรกว่า ในการพิจารณามาตรา 4 ว่าด้วยภาพรวมของงบประมาณ ที่กำหนดไว้เป็นวงเงินจำนวน 3.185 ล้านล้านบาท กมธ.และส.ส. อภิปรายขอปรับลดงบประมาณ พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เป็นการจัดสรรงบประมาณที่มุ่งตอบโจทย์และผลประโยชน์ทางการเมือง โดยจัดสรรงบแบบกระจุกให้เฉพาะพื้นที่ เฉพาะจังหวัดที่มีรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรครัฐบาลเท่านั้น
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกพรรคก้าวไกล ฐานะกมธ.ฯ อภิปรายให้ปรับลดงบประมาณ 5% พร้อมให้เหตุผลว่างบประมาณ 3.185 ล้านล้านบาท พบว่าปัญหาใหญ่ คือ การใช้เงินผิดจุด ไม่ตอบโจทย์ ไม่จำเป็นและไม่เป็นธรรม เพราะตั้งงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์ภาพกว้าง ภาพใหญ่ ภาพไกล และภาพรวม โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณไม่มองภาพกว้างของคนทั้งประเทศ ผ่านการจัดสรรงบประมาณไปสู่โครงการต่างๆ อย่างเป็นธรรม เช่น โครงการถนนและโครงการน้ำกว่า 50% ของงบลงทุน พบว่างบกระจุกตัวบางจังหวัดงบซ่อมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท 7 จังหวัด ที่ได้งบสูงสุดมียอดรวมถึง 25%ของงบทั้งประเทศ ขณะที่งบน้ำพบว่า 7 จังหววัดที่ได้งบสูงสุด มียอดรวม36% ของงบทั้งประเทศ
นายพริษฐ์ อภิปรายด้วยว่า งบซ่อมถนน แม้ว่าพรรคต้นสังกัดของรมว.คมนาคม จะมีส.ส.เขต 34% ของทุกจังหวัด แต่เมื่อดูใน 7 จังหวัดที่ได้งบสูงสุด มีส.ส.เขตที่คิดเป็น 100% งบปรบปรุงแหล่งน้ำ แม้พรรคต้นสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีส.ส.เขต 21% ของทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่เฉพาะ 7 จังหวัดที่ได้งบสูงสุด มีส.ส.เขต 43%
“มีคำถามว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณคำนึงถึงความเดือดร้อนอย่างเป็นธรรม หรือจัดสรรงบบนพื้นฐานของผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งนี้การจัดสรรงบทำแบบเบี้ยหัวแตก จัดสรรงบให้โครงการเล็กๆ ที่ได้ทำมากกว่าทำแล้วแก้ปัญหา โดย 70% เป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนั้นยังพบว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น เพิ่มหนี้สาธารณะและไม่คำนึงถึงปัญหาในอนาคต เช่น การเพิ่มเงินประกันสังคมให้ 1.6% ทั้งที่จะมีผู้ประกันตนเพิ่ม 3.6% “ นายพริษฐ์ กล่าว
ขณะที่พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายให้ปรับลดงบประมาณ เนื่องจากพบว่ามีการจัดสรรงบที่กระจุกตัวในพื้นที่ที่รัฐมนตรีของรัฐบาล และส.ส. ในสังกัดรัฐบาลเท่านั้น ส่วน พื้นที่ที่ไม่มีส.ส. อยู่ตามยถากรรม
ส่วนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายพร้อมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะถึงวันครบวาระ 8 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 24 สิงหาคม เพราะที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้ประเทศ และเป็นรัฐบาลที่ก่อหนี้สูงสุด ส่วนรัฐบาลที่จะมาบริหารราชการแผ่นดินต่อ เป็นความน่าสงสาร เพราะต้องกู้เงินเพื่อมาชดใช้หนี้ของคณะรัฐประหาร
ทางด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอเสนอตัดงบประมาณแผ่นดิน 29% เพราะไม่ต้องการให้ไปกู้หนี้เพิ่ม เพราะสภาพรัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะบักโกรก ไส้แห้ง ตูดขาด เตรียมตัวเก็บกระดูกลอยอังคารเศรษฐกิจไทย แต่เมื่อดูการจัดงบรายจ่ายปี2566 ไม่เคยเห็นอะไรน่าเกลียดเท่านี้มาก่อน เป็นการจัดงบแบบทิ้งทวน เทกระจาด อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงบกระจุกตัวเป็นว่าเล่น อาทิ งบปรับปรังแหล่งน้ำ กรมชลประทาน ไปลงที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ มากเป็นพิเศษ หรือกรมการข้าว เดิมเคยได้งบต่อปีที่ 3,000 ล้านบาท แต่ปีนี้พุ่งไปที่ 17,000ล้านบาท แต่ข้าวไทยกลับสู้เวียดนามไม่ได้.