"มาดามเดียร์" เผย "ประวิตร" เข้าใจเหตุผลลาออก แย้มไปต่อทางการเมือง

"มาดามเดียร์" เผย "ประวิตร" เข้าใจเหตุผลลาออก แย้มไปต่อทางการเมือง

"วทันยา" เผย "ประวิตร" เข้าใจเหตุผลลาออก "ส.ส.พปชร." รับฟางเส้นสุดท้าย คือสภาล่มซ้ำซาก ย้ำจุดยืนต้องทำหน้าที่เข้าประชุมถกสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาข้อยุติ เผยไปต่อทางการเมือง แต่ยังไม่ตัดสินใจร่วมพรรคไหน

น.ส.วทันยา บุนนาค เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หลังเข้ากราบลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า พล.อ.ประวิตร เข้าใจในการทำหน้าที่ รวมถึงยืนยันตัวตน จุดยืนในการทำงานของตน หลายเรื่องกับพรรค พล.อ.ประวิตร คงเข้าใจแนวคิดและจุดยืนของเรามาโดยตลอด ท่านให้ความเข้าใจ เช่น การลงคะแนนเสียง หรือการปฎิบัติหน้าที่ในสภา ถ้าตนมีความเห็นหรือตัดสินใจ หรือมีจุดยืนอย่างไร จะแสดงออกอย่างชัดเจน ไม่หันหลังกลับ 

น.ส.วทันยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พล.อ.ประวิตร ก็เคยเปรยมาเป็นระยะอยู่แล้วให้ช่วยการทำงานในพรรค แต่เมื่อเราตัดสินใจ ก็เข้าไปกราบเรียนท่านด้วยตัวเอง ท่านก็คงรับรู้ถึงความตั้งใจของเรา ท่านก็มีความเป็นผู้ใหญ่ให้ความเมตตา ทั้งนี้ แม้ตนไม่ได้สังกัดเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่ในแง่ของความเคารพในฐานะตนเป็นผู้น้อย ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์แปรเปลี่ยนไป 

น.ส.วทันยา กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุผลในการลาออกครั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจ หรือฟางเส้นสุดท้ายคือเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ในสภา ที่ล่มซ้ำซากมาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ ตนแสดงจุดยืนในการรักษาความถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ ในการเข้าร่วมประชุมสภา ก็ยืนยันจุดยืนตรงนี้มาโดยตลอด ต้องบอกว่า ในการคำนวณส.ส. บัญชีรายชื่อ ผ่านสภามีมติให้เปลี่ยนบัตรเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวมาเป็นบัตร 2 ใบ ตามความหมายของรัฐธรรมนูญ ตนก็คิดว่า บัตร 2 ใบ สูตรคำนวณก็ควรหาร 100 แต่การที่จะหาร 100 หรือ 500 จุดยืนตนคือ ไม่ว่าใครจะมีแนวคิดอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องเข้าสภาไปโหวต และอภิปราย เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ลงมติ เพื่อที่จะได้ข้อยุติ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับการไม่เข้าประชุมแบบนี้ ทั้งที่หน้าที่ของส.ส.อันดับแรกเลย คือการเข้าร่วมประชุม ถือเป็นหน้าที่หลัก การที่ไม่เข้าประชุมสภาตนคิดว่าเราคงต้องพิจารณาตัวเอง 

น.ส.วทันยา กล่าวด้วยว่า แนวคิดที่เรามีความเห็นแตกต่างกับพรรค นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ก็คิดว่าคงต้องถึงเวลาที่เราจะต้องพิจารณาตัวเอง ถ้าหากเรามีแนวคิดหรือจุดยืนที่ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพรรค ก็คงต้องเป็นตัวเราเองมากกว่าที่ต้องพิจารณาตัวเอง แล้วเดินออกมา ไม่ไปทำให้พรรคเกิดปัญหาขึ้น

"สภาคือเสาหลักของระบบประชาธิปไตยมาโดยตลอด จะมีปัญหาอย่างไร สภาคือเวทีกลางที่ให้ทุกคนใช้เวทีตรงนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะฉะนั้นมันควรจะดำรงความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐสภา" น.ส.วทันยา กล่าว

น.ส.วทันยา กล่าวว่า ส่วนสมัยหน้าตนจะไปอยู่พรรคใดนั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่คิดว่าทำงานมาถึงจุดนี้ ตนก็ยังศรัทธาในกลไกรัฐสภา และประชาธิปไตย ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้ประเทศกำลังขับเคลื่อนไป ก็ยังอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานการเมืองเพื่อผลักดันสิ่งที่เราคาดหมายต่อไปในอนาคต