“ไทย-มาเลเซีย” เล็ง เชื่อมรถไฟความเร็วสูง สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่ง 2

“ไทย-มาเลเซีย” เล็ง เชื่อมรถไฟความเร็วสูง สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่ง 2

“รัชดา” เผย ”ไทย-มาเลเซีย” เห็นพ้อง แนวทางพัฒนาร่วม ตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 68 ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิม เร่งรัดถนนเชื่อมด่านสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก เพิ่ม ศึกษาความเป็นไปได้รถไฟความเร็วสูง

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากประชุมร่วมไทยและมาเลเซีย ผ่านคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (เจซี) และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน ระดับรัฐมนตรี (เจดีเอส) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ทั้งสองประเทศเห็นชอบในแนวทางการพัฒนาร่วมกันที่ครอบคลุม ทั้งความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวพลังงาน สาธารณสุข และประเด็นความร่วมมือทางสังคมและวัฒนธรรมอื่นๆ โดยจะมีการทำโรดแมปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ ภายใต้กรอบเวลาที่ชัดเจนต่อไป อาทิ

- การค้า จะตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี พ.ศ. 2568

- การท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชนและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

-การเสริมสร้างความเชื่อมโยง จะเร่งรัดให้โครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งรวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก 2 แห่ง รวมทั้งจะศึกษาความเป็นไปได้โครงการความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐปะลิส และเส้นทางรถไฟความเร็วสูง 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า การขับเคลื่อนความร่วมมือในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคม มาเลเซีย ได้หารือกับเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในช่วงเวลาเดียวกันนี้  มีประเด็น 

1.การพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรชายแดนไทย - มาเลเซีย ในพื้นที่จ.นราธิวาส ที่อำเภอสุไหงโกลก อำเภอตากใบ และด่านบูเก๊ะตาอำเภอแว้ง 

2.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก แห่งที่ 2 อำเภอสุไหงโกลก และที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส 

และ 3.โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายของรัฐบาล 

ขณะนี้ ได้ข้อสรุปที่ดีตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างสะพานทั้งสองประเทศจะร่วมกันผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในการขนส่งการค้าชายแดน และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

“นายกรัฐมนตรี พอใจผลการหารือร่วมไทย-มาเลเซีย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ได้ประชุมร่วมกันมานานถึง 7 ปี และกล่าวว่าเป็นก้าวสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ สู่เป้าหมายการพัฒนาในทุกๆมิติร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ศอ.บต. จะรวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมเพื่อการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกรทรวงคมนาคม ของมาเลเซีย ที่คาดว่าจะมาเยือนพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในช่วงปลายเดือนนี้” น.ส.รัชดา กล่าว