3 ทหารเสือ กปปส. “จั้ม-บี-ตั้น” ถึงทางแยก

3 ทหารเสือ กปปส.  “จั้ม-บี-ตั้น” ถึงทางแยก

“สกลธี” มีดีลให้เข้าพรรค รทสช. เพื่อช่วยงาน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครทสช. แต่ดีกรีของ “สกลธี” ยากที่จะทำใจไปอยู่ใต้ปีกของ “เลขาฯขิง” จึงเซย์โนในเวลานี้

โค้งสุดท้ายรัฐบาลเป็นนาทีทองของ “นักเลือกตั้ง” เปิดดีลหาพรรคที่ใช่ ลงสนามเลือกตั้ง เพื่อสร้างผลงานของตัวเอง ลุ้นรับปูนบำเหน็จ หากพรรคที่เลือกชนะการเลือกตั้งจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

เช่นเดียวกับ “3 ทหารเสือ กปปส.” ประกอบด้วย “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ “เดอะจั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่ากทม.ฯ “เดอะบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม

แม้ก่อนหน้านี้ จะมีข่าวคราว “ณัฏฐพล-สกลธี” จะจับมือเดินไปด้วยกัน ขับเคลื่อนพรรคไทยสร้างสรรค์ ยิ่งแต้มเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของ “สกลธี” ได้มา 230,534 คะแนน ทำให้ทั้งคู่พอมีหวังในสนามเลือกตั้งใหญ่

ทว่า การกำเนิดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทำให้พรรคไทยสร้างสรรค์เกิดได้ยาก เพราะ “ทุนการเมือง” อยู่ในเครือเดียวกัน แถมการขับเคลื่อนการเมืองของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครทสช. ตอบโจทย์ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการคัมแบ็คเก้าอี้นายกรัฐมนตรี อีกสมัยมากกว่า

เนื่องจากแนวทางของ “ณัฏฐพล-สกลธี” ต้องการทำพรรคการเมืองในระยะยาว เน้นสร้างคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร

ล่าสุด มีกระแสข่าว “สกลธี” มีดีลให้เข้าพรรค รทสช. เพื่อช่วยงาน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครทสช. แต่ดีกรีของ “สกลธี” ยากที่จะทำใจไปอยู่ใต้ปีกของ “เลขาฯขิง” จึงเซย์โนในเวลานี้

โดย “สกลธี” เข้าไปพบ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอไฟเขียวกลับเข้าพรรค อาสาคุมทัพ กทม.ด้วยตัวเอง แต่ปรากฎว่าถูก “เสี่ยโต” และ “สตรีหลังม่าน” ขวางทางอยู่

ส่วน “ณัฏฐพล” แม้ยังหวังเดินหน้าสร้างพรรคไทยสร้างสรรค์ต่อ แต่ระยะเวลาที่เหลือน้อยลง ยากที่จะขับเคลื่อนพรรคใหม่ให้มีกระแส ทางเลือกของ “ณัฏฐพล” จึงถูกบีบให้แคบลง

ด้าน “พุทธิพงษ์” บินเดี่ยว แยกตัวออกจาก “สามทหารเสือ กปปส.” มาตั้งแต่หลุดเก้าอี้รัฐมนตรี โดยเลือกเก็บตัวเงียบมาสักพัก แต่ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวเปิดดีลกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เข้ามาเป็น “แม่ทัพ กทม.” แม้ภูมิใจไทยยังไม่หวังเก้าอี้ ส.ส. แต่ขอแต้มใน กทม.ให้ได้มากที่สุด

ถึงเวลา “3 ทหารเสือ กปปส.” ต้องแยกทางกันเดิน เพราะต่างคนต่างมีเดิมพัน อนาคตทางการเมืองของตัวเอง