ป.ป.ช.สอบ-รวมหลักฐานอยู่ เล็งแจ้งข้อหา 15 จนท.รัฐพันไม่สั่งฟ้อง “คดีบอส”

ป.ป.ช.สอบ-รวมหลักฐานอยู่ เล็งแจ้งข้อหา 15 จนท.รัฐพันไม่สั่งฟ้อง “คดีบอส”

ป.ป.ช.ยังไต่สวนอยู่ 15 เจ้าหน้าที่รัฐปมไม่สั่งฟ้องคดี “บอส” มี “พล.ต.ท.” นามสกุลอดีตนักการเมืองอีสานด้วย คาดเตรียมสรุปสำนวนชงองค์คณะไต่สวนได้เร็ว ๆ นี้ หลัง “วิษณุ” เชิญ “พล.ต.อ.วิสนุ” เข้าพบ ถามความคืบหน้า ก่อนตอบกระทู้สภา 11 ส.ค.

กรณีเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) มาเข้าพบ ว่า ได้เชิญมาสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญานายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส” ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต โดย พล.ต.อ.วิสนุ เป็นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพราะจะต้องไปตอบกระทู้เรื่องนี้ที่สภา ตนไม่รู้เรื่อง จึงได้เชิญ พล.ต.อ.วิสนุ มาถามว่าคดีมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เพราะตอนนั้นเป็นจเรตำรวจ และเป็นประธานสอบคดีนี้

ความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า ปัจจุบันเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน และรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะสามารถนำเสนอที่ประชุมองค์คณะไต่สวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาได้ในเร็ว ๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งองค์คณะไต่สวนชุดใหญ่ โดยมีกรรมการ ป.ป.ช. 8 รายเป็นองค์คณะไต่สวน โดย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และ พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน ส่วนนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. ที่เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขอถอนตัวจากการเป็นองค์คณะไต่สวน โดยระบุว่า แม้จะไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่ขอถอนตามตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (พ.ร.ป.ป.ป.ช.) มาตรา 56 (1) ที่ห้ามมิให้กรรมการเข้าร่วมดำเนินการไต่สวน พิจารณา หรือวินิจฉัยคดี กรณีรู้เห็นหรือเคยสอบสวน หรือพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวหาในฐานะอื่นที่มิใช่ในฐานะกรรมการ ป.ป.ช. มาก่อน

คดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหารวม 15 ราย แบ่งเป็น ตำรวจยศ พล.ต.อ. 1 ราย พล.ต.ท. 1 ราย พล.ต.ต. 1 ราย พ.ต.อ. 1 ราย พ.ต.ท. 1 ราย รวมถึงอัยการชื่อย่อ "ช" และ "น" รวมอยู่ด้วย 

สำหรับนายตำรวจยศ พล.ต.ท. (ยศขณะนั้น) มีนามสกุลเดียวกับอดีตนักการเมืองชื่อดังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยการไต่สวนบางส่วนจะใช้ข้อมูลการสอบสวนชุดนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานฯ และได้รายงานไปที่นายกรัฐมนตรี โดยจะดูว่าผลการสอบสวนของนายวิชา มีการพาดพิงถึงใคร ถ้าองค์คณะไต่สวนป.ป.ช.สงสัย ใคร มีอำนาจเรียกตัวบุคคลนั้นมาให้การได้

ทั้งนี้ไทม์ไลน์คดีดังกล่าวตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. จะต้องดำเนินการไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี แต่สามารถขยายเวลาการไต่สวนได้อีก 1 ปี อย่างไรก็ดีมีรายงานว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. สั่งเร่งรัดดำเนินการคดีนี้ให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลากฎหมายภายใน 2 ปี