โผ "ทหาร-ตำรวจ" รับการเมืองเดือด กระชับแผงอำนาจ " 3 ป."

โผ "ทหาร-ตำรวจ" รับการเมืองเดือด กระชับแผงอำนาจ " 3 ป."

โยกย้ายทหาร-ตำรวจ ปีนี้มีนัยสำคัญ ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งอาจต้องเขย่ากันหลายยกเพื่อให้ได้สูตรผสมที่ลงตัว บางตำแหน่ง บางหน่วย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงไม่ว่า “พี่น้อง 3 ป.”จะได้หวนคืนอำนาจหรือไม่

จะว่าไม่กังวลอะไรเลย ก็ดูเหมือนจะพูดไม่เต็มปากสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต่อประเด็นการตีความวาระนายกรัฐมนตรี 8 ปีของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบย่อมส่งผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองแน่นอน จึงได้กำชับให้ “เหล่าทัพ-ตำรวจ” เร่งจัดทำบัญชีโยกย้ายข้าราชการทหารและตำรวจให้แล้วเสร็จ 

วันที่ 10 ส.ค.พล.อ.ประยุทธ์ ได้นัดหารือคณะกรรมการปรับย้ายทหารชั้นนายพล ประกอบด้วย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมับ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)

โดยรอบนี้ การคัดคนขึ้นตำแหน่งหลัก หรือหน่วยสำคัญๆ อาจต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะนอกจากต้องรองรับการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญตีความปมนายกฯ 8 ปีแล้ว งานใหญ่ของประเทศ เจ้าภาพประชุมเอเปคปลายปีนี้ และการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566 ที่เชื่อกันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนำไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง

ชื่อที่ลอยลำมา “บิ๊กหนุ่ม”พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ (ตท.24) รองปลัดกระทรวงกลาโหม ครองอัตราพลเอกพิเศษ อาวุโสสูงสุด น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จ่อขึ้น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” แบบไร้คู่แข่ง

หากไม่มีอะไรพลิกผันเก้าอี้ “ บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ก็ยังเหนียวแน่น นั่งคุม ทบ.1 เหมือนเดิม ส่วนน้องรัก พล.อ.ประยุทธ์-ประวิตร อีก 2 คน “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23 )ผู้ช่วยผบ.ทบ. เป็น รอง ผบ.ทบ.ครองอาวุโส จ่อเป็น ผบ.ทบ.ปีหน้า และคาดว่า “บิ๊กโต” พล.ท.สุสรรค์ หนองบัวล่าง (ตท.23) แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ.

แต่ที่ยังต้องลุ้น “บิ๊กเกรียง” พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.22 ของ “บิ๊กบี้” ที่กำลังฟื้นตัวจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก จะมาเป็น เสธ.ทบ. หรือเลือกอยู่ที่เดิมคุม “ไฟใต้” ไปจนเกษียณปี 2566 โดยมี 3 แคนดิแดต รองแม่ทัพ มทภ.4 จ่อขึ้น ทั้ง พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์  พล.ต.ไพศาล หนูสังข์  พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค

แน่นอนว่าแม่ทัพภาค 1 (มทภ.1) คนใหม่ ต้องมาจากเครือข่ายพี่น้อง 3 ป. เพราะต้องมาคุมกำลังรบหลักเมืองกรุงที่ใช้ยึดอำนาจ “บิ๊กหนุ่ย” พล.ท.ธราพงษ์ มาละคำ (ตท.24) แม่ทัพน้อยที่ 1 และอนาคตมีโอกาสเข้าชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ.

ด้าน “กองทัพเรือ” ยังเป็นเหล่าทัพที่ต้องจับตา แม้ปีนี้ พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. (ตท.21) จะครองอาวุโสสูงสุด และมีความชอบธรรมที่จะได้ เก้าอี้ ผบ.ทร. หลังพลาดหวังเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ต้องลุ้นเพราะภาพลักษณ์ยังติดแบรนด์เด็ก “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร.คนก่อน

ทุกสายตาจึงโฟกัสมาที่ “บิ๊กจอร์ช” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ (ตท.22) ผู้ช่วยผบ.ทร. ซึ่ง พล.ร.อ.สมประสงค์ ไปดึงกลับมาจาก กองทัพไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และด้วยความสัมพันธ์อันแนบแน่นของทีมหลังบ้าน จึงเป็นไปได้สูงที่จะถูกเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร. เว้นแต่ว่า สถานะและคุณสมบัติเฉพาะบางประการที่ปิดโอกาส

หลัง กมธ.งบฯผ่านโครงการจัดซื้อเครื่องบิน F-35 ของกองทัพอากาศ ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติ ที่ ผบ.ทอ.คนใหม่ ต้องมีคือสานต่อโครงการดังกล่าว จึงต้องไปวัดใจ พล.อ.อ.นภาเดช ว่าจะเลือกแคนดิเดตคนใดมารับช่วงต่อ

ทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. (ตท.22) อาวุโสสูงสุด “บิ๊กหนึ่ง” พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา ผู้ช่วย ผบ.ทอ. (ตท.23 )ที่เกษียณกันยายน 2567 และ “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เสธ.ทอ. (ตท.24) เกษียณกันยายน 2568

“บิ๊กตุ๊ด” พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้ช่วย ผบ.ทอ. (ตท.22) อีกคนที่เกษียณกันยายน 2566 และที่มองข้ามไม่ได้ “บิ๊กต้น” พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา (ตท.22) ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการควบคุมปฏิบัติการทางอากาศ (ผบ.คปอ.) ที่ถูกยกระดับองค์กรให้มีฐานะเทียบเท่า 5 เสืออากาศ ที่สำคัญ ยังเป็นน้องรัก พล.อ.อ.นภาเดช

ฟาก “สีกากี” น่าสนใจไม่น้อย เพราะคนที่ต้องมารับไม้ต่อในตำแหน่ง ผบ.ตร.จาก “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจงยอดสุข ผบ.ตร. ต้องดูแลความเรียบร้อย และทำงานสอดประสานกับกองทัพ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

โดย “ผบ.ตร.”คนที่ 13 มีแคนดิเดต ด้วยกัน 3 คน เรียงตามลำดับอาวุโส “บิ๊กหิน” พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ มือสางทุจริตอมเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 เกษียณอายุราชการปี 2566 “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (ตท.22 นรต.38) มือปราบไซเบอร์ เฟกนิวส์ เกษียณอายุราชการปี 2566 และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (ตท.24 นรต.40 )

เชื่อกันว่า การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร-ตำรวจ ปีนี้มีนัยสำคัญ ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งอาจต้องเขย่ากันหลายยกเพื่อให้ได้สูตรผสมที่ลงตัว โดยเฉพาะบางตำแหน่ง บางหน่วยที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงของประเทศ ไม่ว่า “พี่น้อง 3 ป.”จะได้หวนคืนอำนาจหรือไม่