‘พีระพันธุ์’ เดินการเมืองฉากใหม่ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ปชช.จะไม่ผิดหวัง

‘พีระพันธุ์’ เดินการเมืองฉากใหม่ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ปชช.จะไม่ผิดหวัง

“พีระพันธุ์” ให้สัมภาษณ์พิเศษ ถึงแนวทางของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ถ้าประชาชนให้โอกาส จะไม่ผิดหวัง จะเห็นนักการเมืองและพรรคการเมืองรูปแบบใหม่ที่ทำงานอย่างแท้จริง เหมือนที่ผมทำมาตลอด

พรรคการเมืองน้องใหม่ ที่ถูกจับตามาตลอดอย่าง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” กำลังจะขับเคลื่อนอย่างเป็นทางการ โดยกำหนดประชุมใหม่วิสามัญในวันที่ 3 ส.ค.2565 นี้ เพื่อเลือกผู้บริหารพรรครองรับการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

ขุนพลคนสำคัญที่ปลุกปั้นพรรคการเมืองนี้คือ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกรุงเทพธุรกิจ ถึงแนวทางการทำงานและทิศทางพรรค

“พีระพันธุ์” เปิดเผยว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา  "ผมอยากเห็นบ้านเมืองที่มีพรรคการเมืองที่คิดถึงประชาชนจริงๆ ใช้ความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือ การทำงานของผมที่ผ่านมาใช้สถานะทางการเมืองหรืออำนาจทางการเมืองเพื่อแก้ปัญหาให้บ้านเมืองมาเยอะ ผมเลยเชื่อและมั่นใจว่า ถ้าใช้อำนาจและตำแหน่งในทางการเมืองที่เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างที่เคยทำ บ้านเมืองจะได้ประโยชน์จริง และการจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นในภาพใหญ่ต้องมีนักการเมืองที่มีแนวทางเดียวกัน คิดและทำแบบเดียวกันจะเกิดพลัง

ผมก็มองว่าเมื่อไหร่จะมีพรรคการเมืองแบบที่อยากให้มี แต่ก็ไม่มีใครที่คิดทำแบบนี้จริงจังสุดท้ายเราต้องทำเอง ก็พูดคุยรวบรวมสมัครพรรคพวก อย่างน้อยลงมือทำ ไม่ได้เอาแต่พูด เรามั่นใจว่าประชาชนต้องการพรรคการเมืองแบบนี้ และอยากเห็นการเมืองแบบที่เราจะทำ" 

คนระดับกลาง-ล่าง ลำบากเสมอ

ผมไม่อยากเรียกว่าพรรคเรามีจุดขายหรือจะเอาอะไรมาขายประชาชน แต่ปัญหาของประชาชนมีอะไรบ้างที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลแก้ไข ไม่มีที่พึ่ง ผมผ่านบ้านเมืองช่วงเศรษฐกิจดี ผ่านช่วงตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร คนระดับกลางลงไปจนถึงล่างลำบากเสมอ แต่คนที่มีโอกาสมากขึ้นคือคนที่อยู่ข้างบน หยิบฉวยโอกาสให้กับบริษัทตัวเอง แต่คนธรรมดา บริษัทเล็กๆ เหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นภาวะแบบไหน 

ถ้านักการเมืองไม่สนใจเข้ามาปลดล็อกให้ประชาชนในเรื่องกฎระเบียบ จะทำให้บ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี คนเหล่านี้ลำบากตลอดมา ทำไมอนาคตของเด็กๆ ต้องขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงิน เราต้องปลดล็อกการศึกษาให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และผลักดันแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสทำมาหากิน ถ้าฝ่ายการเมืองไม่ช่วยดูแล สังคมอยู่ไม่ได้เราตั้งใจทำพรรคการเมืองแบบนี้ เราเชื่อว่านี่คือแนวทางและความคาดหวังที่ประชาชนต้องการ เพราะประเทศไปไม่ได้ ถ้าคนจำนวนมากมีปัญหา

‘พีระพันธุ์’ เดินการเมืองฉากใหม่ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ปชช.จะไม่ผิดหวัง

ทะเลาะกับโอกาส ที่ ปชช.เข้าไม่ถึง

“เราไม่ใช่พรรคการเมืองที่จะมาทะเลาะแย่งตำแหน่ง เราจะไม่ใช่พรรคการเมืองที่มาแสวงหาสถานะทางการเมืองให้กับตัวเอง วันนี้ประชาชนเบื่อหน่าย ข่าวที่ออกมามีแต่ข่าวที่เป็นลบ ไม่ได้เป็นบวกกับประชาชนเลย มีแต่แสดงอำนาจบารมีเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง แล้วประชาชนได้อะไร คนก็มองด้วยความเบื่อหน่ายเอือมระอา ทะเลาะกันเพื่อแย่งอำนาจตำแหน่งให้ตัวเอง สิ่งเหล่านี้บ่อนทำลายประชาธิปไตยด้วยซ้ำ ทำลายอาชีพนักการเมืองและพรรคการเมือง

"เราจะไม่ให้พรรคนี้เป็นแบบนั้น เราจะทะเลาะกับความลำบากความไม่เท่าเทียมของประชาชนเราจะทะเลาะกับโอกาสที่ประชาชนเข้าไม่ถึง มีความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมาย สร้างสังคมใหม่ให้กับบ้านเมือง และชื่อพรรคก็ตรงกับแนวคิดทางการเมืองของเรา"

 

ไม่ใช่พรรคสาขาพลังประชารัฐ

ผมบอกกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้วว่าจะมาทำพรรค มีความตั้งใจอย่างนี้ก็ขออนุญาตที่จะมาทำแบบนี้ ท่านก็รับทราบ 

ผมไม่ใช่พรรคสาขาของพลังประชารัฐ พลังประชารัฐก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม ผมเข้าใจว่าแนวทางที่ผมพูด ก็ไม่ใช่แนวทางที่เขาแสดงออก เพราะฉะนั้น คิดว่าคนละรูปแบบ” 

ผมกับพรรคพวกตั้งใจทำพรรคนี้ แบบนี้ เพื่อประชาชน ผมทำพรรคนี้เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองคือเป้าหมาย ทำให้เป็นพรรคหลักของบ้านเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ใครมีแนวทางเดียวกับเราร่วมงานกันได้ทั้งนั้น โดยไม่ได้ยึดติดตัวบุคคลเป็นสำคัญ เรายึดแนวทางวิธีการความคิดมากกว่า เป็นแนวร่วมกับคนที่มีแนวคิดแบบเรา ต้องการเอาอำนาจทางการเมืองมาทำงานให้บ้านเมือง ไม่ใช่เอามาเพื่อเสริมบารมีให้กับตัวเอง หรือเอามาเพื่อจะสร้างฐานะทางการเมือง ผมไม่ใช่ ถ้าใครมีแนวทางแบบนี้ก็ร่วมกันไม่ได้

 

ถ้าให้โอกาส จะไม่ผิดหวัง

ผมตั้งเป้าส่งส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อให้ครบ ยืนยันว่าพรรคนี้จะเป็นพรรคหลัก และไม่ได้สนใจว่าเมื่อถึงการเลือกตั้งคะแนนจะไปตัดกันเองระหว่างพรรคการเมืองที่มีแนวทางใกล้เคียงกัน ผมสนใจแค่การขอโอกาสทำงานให้ประชาชน ก็อยู่ที่ประชาชน ไม่ได้มาเป็นคู่แข่งกับใครเป้าหมายมีเท่านี้

ผมพูดได้คำเดียวว่า ถ้าประชาชนให้โอกาสผมและพรรครวมไทยสร้างชาติ ประชาชนจะไม่ผิดหวัง จะเห็นนักการเมืองและพรรคการเมืองรูปแบบใหม่ที่ทำงานอย่างแท้จริง เหมือนที่ผมทำมาตลอด

 

ไร้กล้วย ไร้ปัญหา ส.ส.เตรียมย้ายเข้า

แนวทางของพรรควันนี้ผมมั่นใจว่า ส.ส.ปัจจุบันที่เตรียมย้ายมาร่วมงาน มีความแข็งแรงด้วยตัวเองจำนวนพอสมควรแล้วในการจะส่งลงส.ส.เขต รวมถึงคนที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะได้รับเลือก ก็จะเอานโยบายของพรรคไปสนับสนุนตัวเขาด้วยก็มีจำนวนพอสมควรแล้ว แม้ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ แต่อยู่กับผมเรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดคนเหล่านี้เข้ามาคือแนวทางการเมือง เพราะนักการเมืองจำนวนมากในปัจจุบันก็อยากเห็นพรรคการเมืองเป็นอย่างที่ผมพูด ดังนั้น เรื่องกล้วยพรรคเราไม่มี ผมเอาแนวทางการทำงานนำหน้า

 

ไม่เคยคุย การเมืองกับ “ประยุทธ์”

ประเด็นเรื่องตัวบุคคลโดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ หากตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐต่อ โดยไม่ใช่พรรครวมไทยสร้างชาติ ถือว่าเสียโอกาสหรือไม่นั้น ผมมองว่า นั่นเป็นสิทธิ์ของท่าน ไม่มีใครที่จะไปสั่งท่านได้ ว่าให้อยู่กันตรงนั้นตรงนี้ ท่านก็มีวิจารณญาณของท่าน ที่ต้องตัดสินใจว่าต้องทำอย่างไร ผมก็ไปล่วงเกินแนวความคิดไม่ได้

ผมเคยบอกแล้วว่าที่ผ่านมา ผมทำงานกับท่าน ผมก็เคารพรักท่าน ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น ยังทำงานให้ท่าน แต่ผมเคยพูดมาเสมอว่า ผมกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยคุยการเมืองกัน ในฐานะที่เราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ในเมื่อจะเดินตรงนี้ก็ต้องกราบเรียนให้ท่านทราบเท่านั้นเอง

 

เมินเก้าอี้“รัฐมนตรี”

อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวปรับครม. ในช่วงนี้มีความเป็นไปได้ที่จะถูกแต่งตั้งหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่นายกฯ ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่ได้รับสัญญาณใดๆ และคงไม่มีหรอก ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้น สนใจแต่งาน ไม่ได้สนใจตำแหน่ง ผมว่าในรอบปีที่ผ่านมา ผมก็มีผลงานมากกว่าหลายๆ คนนะ โดยที่ผมไม่ต้องมีตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่เคยรู้สึกว่าไม่มีตำแหน่งแล้วทำงานไม่ได้

 

หัวหน้าพรรค พร้อมเป็น “นายกฯ”

ทั้งนี้ ไม่ว่าผมจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ พรรคก็จะเดินแบบนี้ เพราะไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดแบบนี้ คนที่มารวมกันที่นี่คิดและตั้งใจแบบนี้ ใครมาเป็นหัวหน้าก็ต้องเป็นแบบนี้ และคนที่เป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องพร้อมเป็นนายกฯ ถ้าไม่พร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคได้อย่างไร แต่มันไม่ได้อยู่ที่เรา และผมยังไม่เคยตอบคำถามทำนองนี้ เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ผม แต่อยู่ที่ประชาชนให้โอกาสใคร เราจะไปเที่ยวพูดอย่างนั้นไม่ได้ ส่วนเราพร้อมทำงานทางการเมืองทุกตำแหน่ง

ส่วนพรรคกล้า หรือพรรครวมพลัง และพรรคอื่นๆ จะมีโอกาสมารวมกันหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ยุ่งกับใคร พรรคนี้ไม่ได้เป็นพรรคที่มาหลอกประชาชน ไม่ได้ต้องการทำพรรคเพื่อรวบรวมสมัครพรรคพวก ผมประกาศชัดเจนกับคนที่จะมาทำงานด้วยกัน ถ้าใครสนใจผมยินดีต้อนรับ

 

สเปค นายกฯคนต่อไป

คุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปคือ ต้องนำพาพี่น้องประชาชนผ่านวิกฤติของบ้านเมืองไปให้ได้ ด้วยวิธีการอะไรก็สุดแล้วแต่ ไม่ใช่มองในเชิงสร้างเศรษฐกิจ เพราะวันนี้ผมยืนยันว่าไม่มีทางจะฟื้นเศรษฐกิจได้ มันไม่ได้เป็นปัญหาของประเทศแต่มันเป็นปัญหาของโลก ซึ่งเกินกำลังนักเศรษฐศาสตร์หรือมือเศรษฐกิจในเมืองไทย มันต้องฟื้นทั้งโลกพร้อมกัน

 

แก้เศรษฐกิจชาวบ้าน นโยบาย สำคัญกว่าตัวบุคคล

การแก้ปัญหาเศรษฐกิจวันนี้ไม่ได้อยู่ที่นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักเศรษฐกิจ ภาวะวันนี้จะทำอย่างไรในการปลดล็อคให้ชาวบ้านได้ทำมาหากิน เจ้าของกิจการรายย่อยผ่านวิกฤติไปได้ เมื่อผ่านได้ผมมั่นใจว่ายืนต่อได้ แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่มีทาง ที่จะผ่านไปได้ถ้ารัฐบาลไม่มีนโยบายหรือแนวทางสนับสนุนพวกเขา โดยคนตัวใหญ่เขาไขว่คว้าหาโอกาสได้ แต่คนระดับกลางลงล่างวันนี้มีปัญหา ถ้าเราสามารถพยุงให้เขาผ่านไปได้จะฟื้นกันได้หมด แล้วต้องหาทางเยียวยาแก้ปัญหาให้ชาวบ้านธรรมดา ทำอย่างไรให้ภาวะหนี้สินหยุดลงได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเน้นและช่วยกันดูในเวลานี้มากกว่าเน้นหาทีมเศรษฐกิจ

“ต่อให้ทีมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะกี่ทีมวันนี้ก็แก้ไม่ได้ ไม่มีทางฟื้นได้ แต่เราในฐานะฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาลสามารถออกกฎเกณฑ์กติกา มาช่วยซัพพอร์ตประชาชนได้เยอะ สิ่งสำคัญคือตรงนี้มากกว่า อยู่ที่นโยบายมากกว่า ผมไม่เชื่อว่าตัวบุคคลที่ไหนจะฟื้นเศรษฐกิจได้วันนี้ ไม่มีทางจากที่พวกผมวิเคราะห์ตัวเลขและฐานข้อมูล เวลานี้ประชาชนต้องการเรื่องเหล่านี้ เขาไม่ได้ต้องการเห็นทีมเศรษฐกิจ ผมคุยกับชาวบ้านเขาเบื่อ มีแต่คนหน้าเดิมๆ เขาไม่สนใจหรอก เขาสนใจแต่ว่าจะช่วยอะไรเขา รู้ไหมปัญหาเขาคืออะไร จะถูกฟ้องล้มละลาย รถจะถูกยึด มีทีมเศรษฐกิจที่ไหนมาช่วยเขาไหม เศรษฐกิจชาวบ้านคือเรื่องแบบนี้ คนเหล่านี้จำนวนมากที่เอฟเฟกต์อยู่ นโยบายของผมจะอยู่บนความเป็นจริง ไม่ใช่นโยบายที่อยู่กับความเพ้อฝัน หลอกชาวบ้าน ผมจะเอาความทุกข์ของชาวบ้านมาแก้ เป็นที่พึ่งให้ประชาชน

 

เล็งสังคายนา กฎหมายงบประมาณ

ผมถามว่า การที่บอกว่านโยบายเศรษฐกิจจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำได้หรือไม่ ไม่ได้เพราะอะไรเพราะกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่เปิดช่องให้ทำ กฎหมายหลายฉบับไม่ทันสมัย กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณควรปรับปรุงหรือไม่ หน่วยงานที่ไม่จำเป็นควรยกเลิกหรือไม่ ตั้งเป้าไปเลยว่างบประมาณแต่ละปีต้องคืนประชาชนกี่เปอร์เซ็นต์ ผ่านรูปแบบใด งบประมาณควรเอื้อเฟื้อให้กับคนจำนวนมาก ไม่ใช่เอื้อเฟื้อกิจการใหญ่

 

เด็ดขาด จัดการนักการเมืองทุจริต

วันไหนถ้าผมมีอำนาจหน้าที่ ผมจะจัดการนักการเมืองทุจริตให้หมด เล่นงานหมดทุกคน ไม่เชื่อก็คอยดูไปว่าผมพูดจริงไหม อยู่ตรงไหนที่ผมสามารถทำได้ ผมทำหมด ไม่เคยกลัวเลย นี่คือรวมไทยสร้างชาติ สร้างเมืองไทยที่สวยงาม มีโอกาสสำหรับทุกคน เข้าถึงสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม