"กลลับ-เกมลึก" ศึกใน ปชป. ปูดข่าว-ดัดหลังหวังยึดรมต.

"กลลับ-เกมลึก"  ศึกใน ปชป.  ปูดข่าว-ดัดหลังหวังยึดรมต.

"ศึกซักฟอก" ไม่เพียงสะท้อนภาพการฟาดฟันกันระหว่างขั้วฝ่ายค้านและรัฐบาล หากแต่ยังรวมไปถึง "ศึกในขั้วรัฐบาลด้วยกัน" โดยเฉพาะ"ค่ายสีฟ้า" ที่ยามนี้กำลังเจอแรงกระเพื่อมระลอกแล้วระลอกเล่า

ผ่านพ้น “ศึกซักฟอก” มีการจับตาไปที่กลเกมการเมือง ท่ามกลางแรงกระเพื่อมภายในขั้วรัฐบาล ที่นับวันจะยิ่งทวีความร้อนแรง และอาจส่งผลไปถึงห้วงการเมืองหลังจากนี้ ผลโหวตที่ออกมาแม้ “11 รัฐมนตรี” จะได้รับเสียง “ไว้วางใจ” จากสภาผู้แทนราษฎร

ทว่า ด้วยตัวเลขที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ย่อมเป็นตอกย้ำกระแสเปิดดีล แจกกล้วยที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสภา ณ เวลานี้

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ภายใน “ขั้วรัฐบาล”เวลานี้ ไม่เพียงแค่กำลังเผชิญศึกต่างขั้วทั้งในและนอกสภา หากแต่ยังรวมไปถึง “ศึกภายใน” ที่ต่างฝ่ายต่างออกอาวุธฟาดฟันกันอย่างหนักหน่วง

โดยเฉพาะ “ค่ายสีฟ้า” ประชาธิปัตย์ ที่เกิดแรงกระเพื่อมรอบใหม่ ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ก่อนศึกซักฟอก ทั้งกรณีที่ “ไชยยศ จิรเมธากร” ที่ประกาศกร้าวกลางที่ประชุม ส.ส. “โหวตคว่ำ” รัฐมนตรีบางคนของพรรค

ก่อนที่ไม่กี่วันถัดมา แกนนำพรรคอย่าง “หมอตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค จะออกมายอมรับว่า รัฐมนตรีบางคนที่ถูกพูดถึงคือ “เสี่ยไก่” จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ย้อนที่มาที่ไป “ไชยยศ” เองมีความขุ่นข้องหมองใจกับ“รมต.ไก่” มาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเลขาธิการพรรค โดยเฉพาะการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ทั้งสองมีสัญญาใจ เรื่องการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในโซนปลอดภัย

 

ทว่าถึงเวลาจริง กลับปรากฏชื่อ “ไชยยศ” อยู่ในลำดับที่28 ซึ่งเป็นลำดับที่ต้องลุ้น “หืดขึ้นคอ” แถมยังต้องไปต่อท้ายสมาชิกที่อ่อนพรรษากว่าหลายคน และยิ่งผลการเลือกตั้ง 2562 ซึ่งปชป.หล่นวูบมาเป็นพรรคขนาดกลาง ที่นั่ง ส.ส.หายอื้อ

กว่าที่ “ไชยยศ” จะได้ใส่สูทเข้าสภาในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คนล่าสุด ที่เลื่อนลำดับไปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา ก็ปาเข้าไปในช่วงปลายเทอมรัฐบาล ฉะนั้นศึกอภิปรายรอบนี้ จึงถือเป็นครั้งแรกในรัฐบาลประยุทธ์ที่ “ไชยยศ” ได้ทำหน้าที่ส.ส.หลังจากที่สวมแต่เพียงหัวโขนรองหัวหน้าพรรคเพียงหัวเดียวมานาน

ยิ่งในสภาวะที่ “กลเกม” ภายในพรรคพยายามจะเลื่อยขาเก้าอี้ “รมต.จุติ” ด้วยแล้ว ไม่แปลกที่ผลการลงมติที่ออกมาจะปรากฏชื่อ “ไชยยศ” ลงคะแนน “งดออกเสียง” สวนมติพรรคในที่สุด

ไม่เพียงแค่นั้นสถานการณ์ภายใน “ค่ายสีฟ้า” ยังทวีความร้อนแรงมากขึ้นหลังจากบรรดากลุ่มก๊วน ส.ส.ออกมาเปิดยุทธการ “เขย่าเก้าอี้-ขยี้ รมว.พัฒนาสังคม” ปล่อยข่าวจริง-ข่าวหลอก จนบิ๊กพรรคต้องเช็คกันให้วุ่น

มีทั้งกระแสที่ “กลุ่มส.ส.ใต้” เปิดเกมรุกเขย่าเก้าอี้ รมต.จุติ หวังดัน “ส.ส.หญิง” รายหนึ่ง ขึ้นแท่นเสนาบดีกระทรวง

อีกฟากปล่อยข่าวในทำนองเดียวกัน แต่เปลี่ยนจาก “ส.ส.หญิง” เป็น “ส.ส.ชาย” ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค และเคยปรากฏข่าวเป็นตัวละครสำคัญในการเลื่อยขาจุติ ขึ้นแท่นเสนาบดีในสัดส่วนภาคใต้

ขณะที่อีกกระแส ก็บอกว่า ไม่ใช่ทั้ง 2 คนข้างต้น แต่เป็น “ส.ส.หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง” แถมเป็นลูกรัก“บิ๊กปชป.” ที่เวลานี้ขยันออกงานสร้างโปรไฟล์ หวังขึ้นแท่นเสนาบดีในอีกไม่ช้าไม่นานหลังจากนี้

ไม่ต่างจากฟากฝั่งของ “รมต.ไก่” ที่ต้องเดินเกมเคลียร์เสียงโหวตให้วุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนวันโหวตมีการปล่อยไลน์หลุด ดีล 12 เสียงสู้เกมล้มเก้าอี้

ก่อนที่ในช่วงดึกก่อนถึงเวลาโหวตเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะปรากฏข่าวที่ “รมต.ไก่” เข้าพบบิ๊ก ปชป.เพื่อเคลียร์เสียงอีกรอบ ท่ามกลางกระแสที่ “ผู้หลักผู้ใหญ่” ใน ปชป.เอ่ยปากขอร้อง ส.ส. ให้ช่วยโหวต“ไว้วางใจ” เพื่อลดแรงกระเพื่อมอันจะส่งผลมาถึงเสถียรภาพพรรค

แต่ผลโหวตซักฟอกที่ออกมา แทนที่จะเป็น“จุติ” ที่คะแนนรั้งบ๊วยตามที่ถูกคาดการณ์ก่อนหน้า กลับกลายเป็นหัวหน้าพรรคอย่าง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ที่ได้รับเสียง “ไว้วางใจ” น้อยสุด โดยมีสาเหตุมาจากเสียงส.ส.รัฐบาลที่โหวตให้รัฐมนตรีคนอื่นๆ หายไป

ทั้งในส่วนของ “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี ที่โหวต “ไม่ไว้วางใจ” หัวหน้าพรรคตัวเอง หรือ “3 ส.ส.” พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ลงมติงดออกเสียง

จนมีการจับตาไปที่กลเกมภายใน “ค่ายปลาไหล” ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ “กัญจนา ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคลงทุนนั่งหัวโต๊ะประชุม ส.ส.ที่สภาช่วงเช้าก่อนโหวตไม่นาน

แม้ต่อมาทั้ง “3 ส.ส.” ที่โหวตสวนจะออกมายืนยันว่า เกิดจากความไม่พอใจส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค และได้แจ้งพรรคทราบตั้งแต่ต้นแล้ว

ทว่ากรณีที่เกิดขึ้นกลายเป็นศึกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ร้อนถึงบรรดา “บิ๊กพรรค” ที่ต้องเร่งเคลียร์ใจเพื่อสยบรอยร้าวที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน

จากนี้ ต้องจับตาอุณภูมิการเมือง ทั้งประเด็นเสถียรภาพรัฐบาล และการส่งสัญญาณ “ปรับครม.” ในช่วงปลายเทอม ที่ยามนี้เริ่มปรากฏความเคลื่อนไหวของพรรคขั้วรัฐบาล เปิดฉากฟาดฟันเขย่าเก้าอี้ ทั้งในและนอกพรรคออกมาเป็นระลอก

เชื่อได้เลยว่า “อุณหภูมิการเมือง” หลังจากนี้ “ร้อนฉ่า” อย่างแน่นอน!!