เปิด 5 สูตร ครม.“ประยุทธ์ 2/5” จับตา“ประวิตร” มท.1 คุมเลือกตั้ง

เปิด 5 สูตร ครม.“ประยุทธ์ 2/5” จับตา“ประวิตร” มท.1 คุมเลือกตั้ง

เปิด 5 สูตร ครม.“ประยุทธ์ 2/5” จับตา“ประวิตร” มท.1 คุมเลือกตั้ง “อนุพงษ์” ลุ้นพลังงาน-กลาโหม เติมเก้าอี้ว่าง 2 รมช. โควตา “ส.ส.ใต้” - “นฤมล” ลุ้นคัมแบ็ค

แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเหลืออีก 1 วัน โดยจะมีการโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และ “10 รัฐมนตรี” ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ 

แนวโน้มเสียงโหวต ไม่น่าจะเป็นปัญหากับนายกฯ ประยุทธ์ แต่ในส่วนของรัฐมนตรีบางรายอาจจะต้องลุ้นกันหนัก ซึ่งหากมี “รัฐมนตรี” โดนโหวตคว่ำกลางสภา จะเป็นเงื่อนไขทำให้นายกฯ ต้องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขณะเดียวกัน มี 5 เหตุผลหลักที่ “3 ป.” ต้องเดินเกมหลังศึกซักฟอกครั้งสุดท้าย ด้วยการปรับ ครม.ให้เกิดความได้เปรียบ ก่อนไปสู่การเลือกตั้ง 

1.แก้ปัญหาใหญ่ด้านเศรษฐกิจ 2.กระชับอำนาจกลุ่ม “3 ป.” 3.รองรับแผนเลือกตั้ง โดยให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนขับเคลื่อน 4.แก้ปัญหาบางกระทรวงที่มีผลงานตกต่ำ และ 5.เพิ่มภาวะความเป็นผู้นำ และยกระดับความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์

อย่างไรก็ตาม การปรับครม.ถูกคาดการณ์เอาไว้แล้วว่า จะเกิดขึ้นภายหลังศึกซักฟอก อย่างน้อยต้องปรับเพิ่มใน 2 เก้าอี้ที่ว่างอยู่ ภายหลังปฏิบัติการปลด “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นรมช.เกษตรและสหกรณ์  “อาจารย์แหม่ม” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” พ้น รมช.แรงงาน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.2564

โดย 2 เก้าอี้ดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เป็นเก้าอี้ยุทธศาสตร์ในการทำพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมลงเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะแบ่ง 1 เก้าอี้ ให้เป็นโควตาของ “ส.ส. ภาคใต้” พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากต้องทำพื้นที่ภาคใต้ให้เข้มแข็ง ซึ่งภาคใต้ไม่เคยมีตัวแทนมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล

บทเรียนจากการเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร-สงขลา สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขนรัฐมนตรีของพรรคลงหาเสียงแบบ “แหลงใต้” ทำโกยแต้มแซงชนะทั้งสองพื้นที่ ดังนั้นหากจะเพิ่มพลังในการหาเสียงพรรค พปชร.จำเป็นต้องมี “รัฐมนตรี” ในโควตาภาคใต้

โดยมีชื่อของ "รงค์ บุญสวยขวัญ" ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคพปชร.และ “นิพันธ์ ศิริธร” ส.ส. ตรัง พรรค พปชร. เป็นตัวเลือก

ส่วนอีก 1 เก้าอี้ มีกระแสข่าวว่าจะแบ่งให้เป็น “โควตากทม.” เพราะในระยะหลัง ส.ส. กทม. พรรคพปชร.กระจัดกระจายกันคนละทิศคนละทาง ไม่มีความกลมเกลียวกัน จึงมีแนวคิดที่จะผนึกความสามัคคีในพื้นที่กทม. โดยมอบโควตารัฐมนตรี หรือมอบหมายให้มือทำงานที่ “3 ป.” ไว้วางใจ เข้ามาดูแลในส่วนนี้ โดยมีชื่อของ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เป็นตัวเต็ง ขณะที่อีกกระแส “นฤมล” อาจมีโอกาสกลับเข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประวิตร หากขยับไปนั่ง มท.1 

นอกจากนี้ ยังมีกระแสว่า “3 ป.” กำลังทบทวนการตอบแทนโควตารัฐมนตรีให้ “พรรคเล็ก” ทำให้มีชื่อของ “ชื่นชอบ คงอุดม” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ลูกชายของ “ชัช เตาปูน” ชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย อาจได้ขยับขึ้นชั้นรัฐมนตรี

เปิด 5 สูตร ครม.“ประยุทธ์ 2/5” จับตา“ประวิตร” มท.1 คุมเลือกตั้ง

นอกจาก 2 เก้าอี้ดังกล่าว มีโอกาสสูงที่ “3 ป.” จะสลับเก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง โฟกัสหลักไปที่การทำพื้นที่ รวมถึงการควบคุมแหล่งทุนการเมือง โดยมีแนวโน้มการสลับเก้าอี้รัฐมนตรี 5 สูตรดังนี้

สูตรแรก ปรับให้ บิ๊กป้อม "พล.อ.ประวิตร” มาดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีต่อ โดยให้ “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไปดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม แต่ติดอยู่ที่ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่อยากนั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม

สูตรสอง พล.อ.ประวิตร ไปดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย ตำแหน่งเดียว โดยไม่ควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และโยก “อนุพงษ์” จาก รมว.มหาดไทย ไปดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน โดยให้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” นั่งรองนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียว แต่เพิ่มงานที่ พล.อ.ประวิตร เคยกำกับดูแล อาทิ สำนักงานบริหารจัดการน้ำ ธนาคารที่ดิน กระทรวงแรงงาน เป็นต้น

เปิด 5 สูตร ครม.“ประยุทธ์ 2/5” จับตา“ประวิตร” มท.1 คุมเลือกตั้ง

สูตรสาม พล.อ.ประวิตร ไปดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย แต่ไม่ควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี โดยให้ “อนุพงษ์” รมว.มหาดไทย ไปดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน โดยโยก “สุพัฒนพงษ์” จากรมว.พลังงาน ไปนั่งเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส แทน “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดีอีเอส ซึ่งอาจจโดนปรับพ้น ครม.ไปเลย

สูตรสี่ พล.อ.ประวิตร ไปดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย แต่ไม่ควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี โดยให้ “อนุพงษ์” รมว.มหาดไทย ไปดำรงตำแหน่งรมว.พลังงาน โดย “สุพัฒนพงษ์” พ้นจากตำแหน่ง รมว.พลังงาน พร้อมหาคนนอกมาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง โดยโยก “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง ไปดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ดูแลสำนักงบประมาณ

สูตรห้า พล.อ.ประวิตร ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี โดยให้ พลอ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย ไปดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม และโยก “สุพัฒนพงษ์” รมว.พลังงาน ไปเป็นรมว.ดีอีเอส โยก “ชัยวุฒิ” ไปเป็นรมว.แรงงาน โดยสลับให้ “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ไปนั่งเก้าอี้รมว.พลังงาน

เปิด 5 สูตร ครม.“ประยุทธ์ 2/5” จับตา“ประวิตร” มท.1 คุมเลือกตั้ง

โดยแนวทางการปรับ ครม.ทั้ง 5 สูตร อยู่ระหว่างการประเมินของ “3 ป.” เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมที่สุดในการรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยมีโจทย์ ต้องทำพื้นที่ให้เข้มแข็ง เพื่อให้ได้เสียง ส.ส. มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไปได้

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กำลังรอสัญญาณการปรับครม.จากนายกฯ หากมีการปรับ ครม.เกิดขึ้นจริง อาจเสนอปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในโควตาของพรรคด้วย

โดยเฉพาะพรรค ปชป.ที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวของเปลี่ยนตัว "จุติ ไกรฤกษ์" รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้พ้นจากตำแหน่ง โดยจะสนับสนุน “กลุ่มอำนาจใหม่” ภายในพรรคปชป.ขึ้นมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทน

เนื่องจากชื่อของ “จุติ” ถูกจัดไปอยู่ในกลุ่มโควตานายกฯประยุทธ์ เรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะให้ “จุติ” นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในโควตาของพรรค ปชป.ต่อไปอีก

ความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น่าจับตาอย่างยิ่ง เพราะการเคลื่อนเกม-เคลื่อนพล จะถูกวางเอาไว้เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะ “ขั้วรัฐบาล” ที่ต้องการกลับมาบริหารอำนาจ บริหารประเทศต่ออีกสมัย