เปิดหน้า "เสี่ยจ๊ะ" ผู้ท้าชนสหายผู้กอง

เปิดหน้า "เสี่ยจ๊ะ" ผู้ท้าชนสหายผู้กอง

"...ว่ากันว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ เป็นแหล่งรวมจอมยุทธ์เอ็นจีโอหลายรุ่น ดังนั้น ผู้ที่เป็นสะพานเชื่อม ระหว่างพีมูฟกับรัฐบาลประยุทธ์ คงหนีไม่พ้นเสี่ยจ๊ะ..."

ไม่รู้ได้ข้อมูลวงในมาจากไหน “เสี่ยจ๊ะธนพร ศรียากูล จอมยุทธ์ไร้กระบวนท่า จึงให้สัมภาษณ์ว่า เลือกตั้งซ่อมลำปาง เป็นลิเกโรงใหญ่ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สู้ไม่เต็มร้อย 

เสี่ยจ๊ะยังวิเคราะห์ว่า ผู้กองธรรมนัสแกล้งแพ้ เพื่อสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองเข้าไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทยแบบเท่ๆ

หากเสี่ยจ๊ะ เป็นคนหิวแสง ก็ไม่น่าให้ราคา แต่เมื่อคลี่ปมชีวิตและเส้นทางการเมืองของเขา จะรู้ว่า ผู้ก่อตั้ง “พรรคคนธรรมดา”คนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ

วันนี้ เสี่ยจ๊ะ-ธนพร ศรียากูล มีหลายหัวโขน เฉพาะในส่วนภาครัฐ ได้แก่ คณะทำงานสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.), ที่ปรึกษากรมประมงด้านการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย, ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ฯ และประธานคณะอนุกรรมการศึกษาความเป็นไปได้การถ่ายโอนภารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

เปิดหน้า \"เสี่ยจ๊ะ\" ผู้ท้าชนสหายผู้กอง

ยามที่เสี่ยจ๊ะ สวมบทนักวิชาการ ก็ใช้ตำแหน่งนายกสมาคมรัฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และบางเวลา สวมหัวโขนหัวหน้าพรรคคนธรรมดา ที่ยืนเคียงข้างเยาวชนคนหนุ่มสาว และคนรากหญ้า

20 ปีที่แล้ว เสี่ยจ๊ะ อดีตนักกิจกรรมหัวก้าวหน้า ม.ขอนแก่น ปรากฏตัวในซุ้มวังน้ำยม โดยรับบททีมงานการเมือง ประจำตัว สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีเกษตรฯ สมัยโน้น

เมื่อสมศักดิ์แยกวงจากทักษิณ มาก่อตั้งพรรคมัชฌิมาธิปไตย เสี่ยจ๊ะก็เป็นคนเดินงานธุรการทุกอย่าง จนได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค

สมัยรัฐบาลสมัคร เสี่ยจ๊ะเข้าไปช่วยงานอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เขาเป็นเลขานุการของ พรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีพาณิชย์

หลังพรรคมัชฌิมาธิปไตยถูกยุบ เสี่ยจ๊ะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เขาเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และนายกสมาคมรัฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์

ช่วงที่เรียนหนังสือที่ ม.เกษตรศาสตร์ เสี่ยจ๊ะได้รู้จักกับนายทหารหลายคน และชักนำให้เขาได้ไปจัดพิมพ์หนังสือชื่อ “กองทัพไทยกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่” จัดพิมพ์โดยสมาคมรัฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ 

หนังสือเล่มนี้ เรียบเรียงจากงานวิจัยของ พล.อ.ประยุทธ์ สมัยเรียน วปอ.ช่วงปี 2550-2551 ขณะที่บิ๊กตู่มีตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารบก 

ด้วยคอนเนกชั่นนายทหารสายประยุทธ์ จึงทำให้เสี่ยจ๊ะ ได้เข้าไปช่วยงาน “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีพาณิชย์ สมัยรัฐบาล คสช.

เมื่อบิ๊กฉัตร โยกมาอยู่รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ เสี่ยจ๊ะก็ตามมาช่วยงาน จนบิ๊กฉัตร มีผลงานเด่นๆ หลายโครงการ และตัวเขายังได้รับมอบหมายให้แก้ไขปัญหาที่เกิดผลกระทบกับเกษตรกร

การเลือกใช้เสี่ยจ๊ะ นับว่า บิ๊กฉัตรเลือกได้ถูกคน ถูกงาน เพราะเสี่ยจ๊ะแพรวพราวจัดจ้าน และรู้จักแกนนำม็อบเกษตรกรทุกคน

ย่างเข้าสู่รัฐบาลประยุทธ์ ภาคนักเลือกตั้ง เสี่ยจ๊ะได้เข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาล ในตำแหน่งคณะทำงานสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.)

ปี 2563 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมัยที่เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) จนกลายเป็นรัฐมนตรีขวัญใจม็อบเกษตรกร

จริงๆแล้ว ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ร.อ.ธรรมนัส ในการเจรจากับม็อบเกษตรกร คือเสี่ยจ๊ะ มือทำงานมวลชน ที่เข้ามาคลุกคลีอยู่ในทำเนียบรัฐบาล มาแต่สมัยรัฐบาล คสช. 

ว่ากันว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ เป็นแหล่งรวมจอมยุทธ์เอ็นจีโอหลายรุ่น ดังนั้น ผู้ที่เป็นสะพานเชื่อม ระหว่างพีมูฟกับรัฐบาลประยุทธ์ คงหนีไม่พ้นเสี่ยจ๊ะ

เนื่องจากเสี่ยจ๊ะ ประจำการอยู่ในคณะทำงานสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.) อันเป็นหน่วยงานพิเศษในสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่มิใช่หน่วยราชการ และขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) 

เสี่ยจ๊ะได้ใช้กลไกของ สบนร. ทำงานร่วมกับเพื่อนพ้องน้องพี่ภาคประชาสังคม และพีมูฟ มาหลายปีแล้ว จนรู้จักมักคุ้นกับแกนนำชาวบ้านทุกกลุ่ม ทุกชาติพันธุ์ 

วันนี้ เสี่ยจ๊ะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสมศักดิ์ เทพสุทิน มานานแล้ว เพราะเขารับบทบาทใหม่ในทำเนียบรัฐบาล

ถ้าไม่ใช่เซียนการเมืองผู้ไร้ร่องรอยอย่างเสี่ยจ๊ะ ก็ไม่มีใครกล้าออกมาฟันธงว่า เลือกตั้งลำปางเป็นลิเกโรงใหญ่ และสหายผู้กองจะกลับเพื่อไทย