"โฆษกรัฐบาล" ซัด จิรัฏฐ์ มั่ว แจง ใช้แค่ 4 ล้าน ซื้อ 6 IPAD-คอมพ์ 138เครื่อง

"โฆษกรัฐบาล" ซัด จิรัฏฐ์ มั่ว แจง ใช้แค่ 4 ล้าน ซื้อ 6 IPAD-คอมพ์ 138เครื่อง

"โฆษกรัฐบาล" แจง ปม "สลน." ใช้ 10 ล้าน ซื้อ IPAD Pro บิดเบือน ซัด "จิรัฏฐ์" จับแพะชนแกะ ให้ร้าย ป้อง "นายกฯ" ไม่ได้เสนอขอ ซัด มัดรวม2โครงการแต่งนิทาน ชี้ ซื้อจริง แค่6 เครื่อง รวมคอมพิวเตอร์ 138 เครื่อง รวม 4 ล้านกว่า

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โพสต์เฟซบุ๊คพาดพิงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า จัด IPAD Pro M1 ตัวท็อปพร้อมอุปกรณ์เสริมให้กับข้าราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) 130 เครื่อง เป็นเงิน 10 ล้านบาท จากเงินภาษีประชาชน ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือนและจับแพะชนแกะอย่างรุนแรง นายจิรัฏฐ์ เป็นผู้แทนประชาชนและเข้ามาทำหน้าที่สำคัญในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายของประเทศ แต่กลับไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีและยังให้ร้ายผู้อื่น ถือเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก เช่นนี้พรรคก้าวไกลและสังคมควรทบทวนบทบาทของนายจิรัฏฐ์ เสียใหม่

นายธนกร กล่าวว่า การจัดทำของบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นเรื่องของส่วนราชการที่พิจารณาว่าเรื่องใดมีความสำคัญและจำเป็น จากนั้นจึงเสนอของบประมาณผ่านสำนักงบประมาณ ดังนั้น แม้จะเป็นงบประมาณของ สลน. แต่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นผู้เสนอขอหรือจัดงบให้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางงบประมาณที่มีคณะกรรมการหลายชุดเป็นผู้พิจารณา 

"นายจิรัฏฐ์ เอาข้อมูล 2 โครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยมาแต่งเป็นนิทานเรื่องใหม่ โดยโครงการแรกเป็นการขอจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ ALL-IN-ONE จำนวน 138 เครื่อง เพื่อทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือ 7 ปีตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงบประมาณกำหนด ส่วนโครงการที่สอง คือ โครงการจัดทำฐานข้อมูลภารกิจด้านต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีที่มีรายการจัดซื้อแท็บเล็ตพร้อมอุปกรณ์เพียง 6 เครื่องเท่านั้น คิดเป็นค่าขอจัดซื้อคอมพิวเตอร์(รวมค่าระบบปฏิบัติการ) และแท็บเล็ต รวมทั้ง 2 โครงการ 4.03 ล้านบาท ไม่ใช่ขอจัดซื้อแท็บเล็ตตัวท็อป 10 ล้านบาท ตามที่กล่าวอ้าง ดังนั้น สิ่งที่นายจิรัฐฏ์ พูดนั้นจึงเป็นข้อมูลที่มั่วมากโดยมุ่งหวังจะดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล แต่ความจริงกลับเป็นเรื่องโกหกพกลม จึงสมควรพิจารณาตัวเองไปทำหน้าที่อื่นเสียดีกว่า" นายธนกร กล่าว