ปรับแผนซักฟอก เก็บแต้มเลือกตั้ง เปิดฉากถล่ม 3 พรรค-ถลกหลัง“3 ป.”

ปรับแผนซักฟอก เก็บแต้มเลือกตั้ง  เปิดฉากถล่ม 3 พรรค-ถลกหลัง“3 ป.”

เมื่อไล่เรียงชำแหละ “รัฐมนตรี” จากพรรคร่วมรัฐบาลเสร็จ “ขั้วฝ่ายค้าน” จัดคิวชำแหละ “3 ป.” เอาไว้เป็นไม้สุดท้าย และคาดหวังว่าจะเป็นไม้เด็ด โชว์หลักฐานเอาผิดให้ได้ 

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ “รัฐบาลประยุทธ์" ครั้งสุดท้ายในวันที่ 19-22 ก.ค.2565 อยู่ท่ามกลางความคาดหวังของประชาชน เช่นเดียวกับ “ขั้วฝ่ายค้าน” ต้องปรับปรุงตัวเอง เอาจริงเอาจังกับการชำแหละการบริหารงานรัฐบาลมากขึ้น เพื่อเก็บคะแนนนิยมก่อนจะลงสนามเลือกตั้ง

เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ มักมีข่าวข้อสอบรั่วจน “รัฐมนตรี” สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างทันท่วงที แถมเตรียมเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหาไว้ล่วงหน้า จนทำให้ศึกซักฟอกเหมือนเกม “ปาหี่” จน “ขั้วฝ่ายค้าน” เสียราคา

เมื่อมีแต้มการเมืองเป็นเดิมพันขั้วฝ่ายค้านจึงต้องปรับกลยุทธ์ กำจัดจุดอ่อนในศึกซักฟอกครั้งที่ผ่านมา ระมัดระวังไม่ให้ข้อสอบรั่ว เพื่อไม่เปิดโอกาสให้ “รัฐมนตรี” เตรียมข้อมูลตอบโต้ได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังเห็นตรงกันว่า ควรมีการสลับลำดับตัว “รัฐมนตรี” ที่จะถูกอภิปรายเสียใหม่ เนื่องจากการอภิปราย 3 ครั้งที่ผ่านมา จะเปิดหัวด้วยการอภิปรายนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถสร้างสีสันได้ในวันแรกๆ ที่สำคัญประชาชนมักจะให้ความสนใจฟังการอภิปรายที่มุ่งโจมตีหัวหน้ารัฐบาลมากที่สุด

 ล่าสุด จึงมีการปรับยุทธเกมใหม่ ด้วยการสลับมาอภิปราย “พรรคร่วมรัฐบาล” ก่อน โดยจะพุ่งเป้าไปที่พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปมการแก้ปัญหาโควิด-19 ล้มเหลว รวมถึงปมกัญชาเสรี ตามมาด้วย “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่หนีไม่พ้น ปมประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

 ต่อด้วยพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โฟกัสไปที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคปชป.ประเด็นร้อน สินค้าราคาแพง “จุติ ไกรฤกษ์” รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ปมไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ สมัยนั่งนายก อบจ. สงขลา

จากนั้นจะเป็นคิวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปมบริหารงานในกระทรวง “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ปมค่าหัวคิวแรงงานต่างด้าว “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ปมทุจริตท่อน้ำอีอีซี

เมื่อไล่เรียงชำแหละ “รัฐมนตรี” จากพรรคร่วมรัฐบาลเสร็จ “ขั้วฝ่ายค้าน” จัดคิวชำแหละ “3 ป.” เอาไว้เป็นไม้สุดท้าย และคาดหวังว่าจะเป็นไม้เด็ด โชว์หลักฐานเอาผิดให้ได้ 

โดยจะเริ่มจาก “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากนั้นถึงคิว “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะถูกอภิปรายปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ ที่พรรคก้าวไกลเคยเปิดประเด็นเอาไว้

สำหรับคิวท้ายสุด “ขั้วฝ่ายค้าน” จัดไว้เชือด บิ๊กตู่ "ประยุทธ์” โดยรวบสารพัดปัญหา ที่เกิดจากการบริหารงานราชการล้มเหลว ผิดพลาด โฟกัสหลักอยู่ที่การแก้ไขปัญหาโควิด-19 และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ

ต้องจับตาว่า การสลับคิวอภิปรายของ “ขั้วฝ่ายค้าน” จะสามารถตรึงให้ประชาชนทางบ้านรับชมรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้มากน้อยแค่ไหน

 ขณะที่การจัดทัพของ “ขั้วฝ่ายค้าน” หลังจากมีการคัดเลือกผู้อภิปราย ยอดฝีปากของแต่ละพรรคมาลุยศึกครั้งสุดท้ายนี้ ก็มีการซักซ้อมกันอย่างเข้มข้น 

พรรคเพื่อไทยวาง 20 ขุนพล นำโดย “หมอชลน่าน” ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน “สุทิน คลังแสง” ส.ส. มหาสารคาม “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส. มหาสารคาม “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ส.ส. กทม. เป็นต้น

การเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อไทย มี “ทีมยุทธศาสตร์” คอยติวเข้มให้ ส.ส. ที่ผ่านการพิจารณาเข้าร่วมศึึกซักฟอกครั้งนี้ ด้วยการโชว์การอภิปรายให้ได้รับฟังก่อน เพื่อหาจุดเด่น หาข้อบกพร่องเพื่อปรับปรุงแก้ไข ที่สำคัญมีการกำชับอย่างเคร่งครัด ห้ามหลุด “ข้อสอบรั่ว” อย่างเด็ดขาด

ขณะที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) วางตัว 14 ขุนพล นำโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ” หัวหน้าพรรค จะพูดถึงภาพรวมในการอภิปราย “รังสิมันต์ โรม” เน้นอภิปรายเกี่ยวพันกับการหาผลประโยชน์ของรัฐบาลและกลุ่มเอกชน “ศิริกัญญา ตันสกุล” และ “พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” จะเน้นอภิปรายด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก

“พิธา” มองศึกซักฟอกครั้งสุดท้ายเปรียบเป็น “คณิตศาสตร์การเมือง” เนื่องจากมีหลายปัจจัยเกี่ยวกับคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการลงมติอยู่แทบจะตลอดเวลา ดังนั้นคงต้องรอดูโค้งสุดท้ายก่อนลงมติว่าจะมีปัจจัยอะไรมาเป็นตัวแปรบ้าง

พรรคเสรีรวมไทย วาง 2 ขุนพล “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” หัวหน้าพรรคจะอภิปรายในรวม โดยยังเน้นความไม่ชอบธรรมในการบริหารราชการของ “ประยุทธ์” ส่วน “นพ.เรวัต วิศรุตเวช” ส.ส. บัญชีรายชื่อ จะอภิปรายเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการต่างๆ

พรรคประชาชาติ จะมี “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้อภิปรายหลัก ซึ่งต้องจับตาว่าจะมีหลักฐานใหม่มาอภิปรายเรื่องเขากระโดง ซึ่งเป็นชนักของพรรคภูมิใจไทยอีกหรือไม่

พรรคเพื่อชาติ อาจไม่ส่งตัวแทนอภิปราย เนื่องจาก “ศรัณวุฒิ ศรัญเกตุ” หัวหน้าพรรค ถูกลดบทบาทภายในพรรคลง และไม่ร่วมกิจกรรมพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว แต่อาจจะมี “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” ส.ส. บัญชีรายชื่อ ขึ้นอภิปรายในโควตาพรรค แต่หัวใจของ “สงคราม” กลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว

ว่ากันว่า การจัดทัพเตรียมพร้อมสู้ศึกซักฟอกครั้งนี้ของ “ขั้วฝ่ายค้าน” เตรียมตัวมาดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทุกขุนพล-ทุกปมซักฟอก ถูกเตรียมข้อมูลอย่างละเอียด มีการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อปิดรอยรั่ว แม้รู้ว่ายากจะล้ม “ประยุทธ์-รัฐบาล” แต่จำเป็นต้องพิสูจน์ฝีมือ พิสูจน์การทำงาน

ยิ่งใกล้เวลาปิดฉากรัฐบาล ทุกอีเวนท์ที่มีโอกาสแสดงฝีมือย่อมสำคัญเสมอ ศึกซักฟอกครั้งสุดท้ายจึงเป็นเวทีให้ “ขั้วฝ่ายค้าน” ใช้โอกาสนี้โชว์ผลงานดิสเครดิสรัฐบาล เก็บแต้มการเมืองก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง