ปธ.ทีมเศรษฐกิจ "พรรคกล้า" เปิดแนวคิดพัฒนาเกษตรกรพ้นความจน

ปธ.ทีมเศรษฐกิจ "พรรคกล้า" เปิดแนวคิดพัฒนาเกษตรกรพ้นความจน

ประธานทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า เปิดแนวคิด พัฒนาเกษตรกรให้พ้นจากความ "ยากจน" ชี้ถ้าได้รัฐบาลที่เข้าใจ เกษตรกรไทยมีแต่รวย 

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะประธานทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า  กล่าวว่า ประเทศไทย มีเกษตรกรยากจนอยู่เต็มประเทศ วิธีแก้คือ ต้องพัฒนาเกษตรกรธรรมดาให้เป็น

  1. เกษตรพรีเมี่ยม หรือสินค้าเกษตรคุณภาพสูง ขายได้ราคา ที่มีความต้องการในตลาดสูงทั้งในและต่างประเทศ
  2. ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร คือเปลี่ยนจากผู้ทำการเกษตร มาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรแปรรูปนั่นเอง

ทั้ง 2 ข้อข้างต้น ต้องการรัฐบาลที่เข้าใจและมีนโยบายสนับสนุนส่งเสริม เพื่อสร้าง ecosystem ทั้ง 2 ด้านให้เข้มแข็งและยั่งยืน

นายวรวุฒิ ได้ยกตัวอย่าง เกษตรพรีเมี่ยมด้วยพืชทางการเกษตรที่น่าจะทำทั้ง 2 ด้านนี้ ได้เป็นอย่างดี คืออุตสาหกรรมเกษตร เม็ดกาแฟไทย โดยมองว่า เราสามารถพัฒนา เกษตรกรไทย ให้หันมาปลูกกาแฟพรีเมี่ยมได้ด้วยการ ให้ความรู้ และสนับสนุนส่งเสริมให้พัฒนาเทคนิคการปลูกที่จะได้เม็ดกาแฟคุณภาพ สามารถขายเพิ่มมูลค่า จากราคากิโลละหลักร้อยบาท เป็นราคากิโลละหลักพันบาทได้ทั้งนี้ การจะปลูกอะไร ก็ตามใช้ทรัพยากรคือ ที่ดิน เมล็ดพันธ์ แรงงาน น้ำปุ๋ย และเวลา เหมือนกันทั้งสิ้น ดังนั้น ต้องพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มสูงสุด จึงจะได้ประโยชน์ตกกับเกษตรกรมากที่สุด โดยพิจารณาให้มีการส่งเสริมประสิทธิภาพ ในการผลิตโดยรัฐ ทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทั้งเรื่องดูแลควบคุมราคาสินค้าที่เป็นต้นทุนการผลิตเป็นต้น

“เรื่องเหล่านี้รัฐต้องเข้าไปช่วยบริหารจัดการครับ ถ้าได้เมล็ดกาแฟพรีเมี่ยมคุณภาพดี ในต้นทุนที่แข่งขันได้เสียแล้ว รัฐก็ต้องช่วยเหลือในการหาตลาดให้ด้วย ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ทำได้แบบนี้ เกษตรกรไม่จนหรอกครับ จะรวยมากรวยน้อยก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและความขยันขันแข็งของเกษตรกรแต่ละรายแล้ว” ประธานทีมเศรษฐกิจ พรรคกล้า กล่าว

ปธ.ทีมเศรษฐกิจ "พรรคกล้า" เปิดแนวคิดพัฒนาเกษตรกรพ้นความจน

ในส่วนของ ผู้ประกอบธุรกิจกาแฟนั้น นายวรวุฒิ  บอกว่า ควรจะพัฒนาเกษตรกรส่วนหนึ่งให้เลิกทำการเกษตร แต่มาประกอบธุรกิจการเกษตรแทนครับ เช่น แทนที่จะมาปลูกเมล็ดกาแฟ ก็ผันตัวมาเป็นโรงคั่วเมล็ดกาแฟที่เพิ่มมูลค่าแทน เพราะพื้นฐานความรู้การเกษตรเดิมเป็นทุนที่ดีอยู่แล้ว แต่ขยับตัวเองไปเป็นจุดอื่นของ ห่วงโซ่อุปทาน จะมีรายได้ดีกว่า ถ้าเน้นการพัฒนาคุณภาพ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า หรือทำธุรกิจแปรรูปสินค้ากาแฟ ไปเป็นธุรกิจกาแฟสำเร็จกระป๋องพร้อมดื่มเช่นแทนที่จะมีเม็ดกาแฟเทพเสด็จ แม่จันไต้ ขุนช่างเคี่ยน ก็มีกาแฟกระป๋อง เทพเสด็จ แม่จันไต้ ผาฮี้ อะไรแบบนี้ออกมาขายแทน หรือจะทำลูกอมรสกาแฟ หมากฝรั่งรสกาแฟออกมาขายก็สามารถทำได้ อีกหลากหลายรูปแบบครับ เพียงแต่ต้องมีการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กันเสียก่อนเท่านั้น เมื่อสินค้าเกษตรแปรรูปเหล่านี้พัฒนาเพิ่มมูลค่าผ่านขบวนการผลิตที่เก็บรักษาได้ยาวนานเพิ่มมูลค่าแล้ว รัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่หาตลาดทั้งในและต่างประเทศด้วยเช่นกัน 

“ซึ่งทั้ง 2 แนวทาง ทั้ง เกษตรพรีเมี่ยม หรือผู้ประกอบธุรกิจเกษตรแปรรูป สามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายสินค้าเกษตรไทยครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเช่น การส่งเสริมสุราจากข้าวและผลไม้ชุมชน ถ้ามีรัฐบาลที่เข้าใจ และตั้งใจส่งเสริมผู้ประกอบการเกษตรกรคนตัวเล็ก ไม่ให้ทุนใหญ่มาผูกขาดโอกาสทางธุรกิจของคนตัวเล็กๆ ป่านนี้ สุราผลไม้ไทย สุราชุมชนจากเกษตรกรไทย มีตลาดและทำรายได้เข้าประเทศเป็นหลายแสนล้านบาทไปแล้วแน่นอนครับ” รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าว