“ชัชชาติ” เชื่อ “หนังกลางแปลง” กระตุ้นเศรษฐกิจ กทม. ไม่หวั่นฉายหน้าฝน

“ชัชชาติ” เชื่อ “หนังกลางแปลง” กระตุ้นเศรษฐกิจ กทม. ไม่หวั่นฉายหน้าฝน

“ชัชชาติ” เชื่อ “หนังกลางแปลง” กระตุ้นเศรษฐกิจ กทม.ได้ เกิดแรงบวกในสังคม ไม่กังวลฉายหน้าฝน ชี้อย่ากลัวจนไม่ต้องทำอะไรเลย

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2565 ที่พระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ ราชวรมหาวิหาร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดกิจกรรม “กรุงเทพกลางแปลง” ว่า ในวันที่ 17 ก.ค.นี้จะมีการฉายหนังกลางแปลงเรื่องคู่กรรม ที่หัวลำโพง จึงอยากเชิญชวนคนมาดูหนังกลางแปลงกัน ซึ่งกิจกรรมจะเริ่มเวลา 16.30 น. และหนังเริ่มฉายเวลา 20.00 น. ส่วนกรณีการฉายหนังกลางแปลงหน้าฝนนั้น สามารถปรับได้ตามสถานการณ์และความเหมาะสม หากเรากังวลแต่เรื่องฝนหรือกลัวอุปสรรคก็ไม่ต้องทำอะไรเลย บางครั้งจิตวิญญาณของหนังกลางแปลงอาจไม่ใช่แค่ดูหนังก็ได้ แต่คือบริบทรอบๆ เช่น การเจอคน การทักทายกัน เศรษฐกิจ และการค้าขาย เป็นต้น

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจของหนังกลางแปลงอาจไม่ใช่ภาพใหญ่ แต่ทำให้เกิดความหวัง เหมือนเป็นจุดเริ่มในการขยายกิจกรรม ถ้ามีการขยายกิจกรรมแบบนี้ไปมากขึ้น ก็เกิดการหมุนเวียนขึ้น อย่างน้อยก็เห็นหลายชีวิต หลายครอบครัวที่ได้รับผลบวกจากการมีหนังกลางแปลงมาขายของได้ หวังว่ากิจกรรมนี้จะขยายไปพื้นที่ต่างๆ กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะทาง กทม. ไม่สามารถรับภาระทั้งหมดได้ แต่เป็นการจุดประกายให้เกิดแรงเคลื่อน เป็นพลังบวกของเมือง การกระตุ้นเศรษฐกิจของหนังกลางแปลงอาจเป็นแค่ตัวอย่าง หรืออาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างอื่น เช่น การจัดถนนคนเดิน ตลาดนัดในพื้นที่ต่างๆ เป็นตัวอย่างให้เกิดแรงบวกของสังคม คิดว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนช่วยกันได้ ทุกคนไม่ได้แตกต่างกันในการช่วยให้สังคมดีขึ้น

“ส่วนกรณีการฉายหนังกลางแปลงที่หัวลำโพงจะส่งเสียงรบกวนกับการปฏิบัติงานของการรถไฟนั้น คิดว่าอาจมีบ้าง แต่ก็จะปรับให้เหมาะสม นี่คือการอยู่ร่วมกัน ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน อาจมีขัดแย้งกันบ้างก็ต้องปรับตัว ก็จะนำไปปรับปรุง คงเป็นบรรยากาศสนุกๆ ดูหน้างานและปรับตัวกันไป” นายชัชชาติ กล่าว