"อีสานโพล" เผย ปชช. อยากให้ "สุดารัตน์" เป็น "นายกฯ" มากสุด "อุ๊งอิ๊ง" มาที่3

"อีสานโพล" เผย ปชช. อยากให้ "สุดารัตน์" เป็น "นายกฯ" มากสุด "อุ๊งอิ๊ง" มาที่3

"อีสานโพล" เผยผลสำรวจ ปชช. ส่วนใหญ่ อยากให้ "สุดารัตน์" เป็น "นายกฯ" มากที่สุด ตามมาด้วย "พิธา" ส่วน "อุ๊งอิ๊ง" มาที่ 3 แต่สัดส่วนคะแนนเพิ่มเกือบร้อยละ 10 ส่วน "ประยุทธ์" มาที่4 ทรงตัว

ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรืออีสานโพล(E-Saan Poll) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 2/2565 และคาดการณ์ไตรมาส 3/2565 รวมถึงประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและภาพรวม สำรวจวันที่ 2-4 ก.ค.65 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,109 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

ต่อคำถามที่ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผลการสำรวจพบว่า อันดับ1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ25.8 (ลดลงจากไตรมาส 1 ที่ได้ร้อยละ 30.6)

ตามมาด้วย อันดับ2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 20.1 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาส1 ที่ได้ร้อยละ 19.0) 

ขณะที่อันดับ3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร้อยละ 19.8 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาส1 ที่ได้ร้อยละ 10.7) 

อันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 14.4 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาส1 ที่ได้ร้อยละ 14.1)

อันดับ 5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 11.1 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาส1 ที่ได้ร้อยละ 9.1) 

\"อีสานโพล\" เผย ปชช. อยากให้ \"สุดารัตน์\" เป็น \"นายกฯ\" มากสุด \"อุ๊งอิ๊ง\" มาที่3

ขณะที่ คนอื่นๆจากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 3.4 (ลดลงจากไตรมาส1 ที่ได้ ร้อยละ 9.5) และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 3.0 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก ที่ได้ร้อยละ 2.5)

\"อีสานโพล\" เผย ปชช. อยากให้ \"สุดารัตน์\" เป็น \"นายกฯ\" มากสุด \"อุ๊งอิ๊ง\" มาที่3

ส่วนผลสำรวจต่อคำถามที่ว่า ถ้าเลือกตั้ง ส.ส. มีแนวโน้มให้คะแนนพรรคใด พบว่า พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 36.1 (ลดลงจากไตรมาส1 ที่ได้ ร้อยละ 39.4) 

พรรคก้าวไกล ร้อยละ 19.5 (เท่าเดิม) 

พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 14.0 (ลดลงจากไตรมาส1 ที่ได้ ร้อยละ 14.30) 

พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 12.5 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาส1 ที่ได้ร้อยละ 9.0) 

พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 12.1 (ลดลงจากร้อยละ 10.2) 

พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 3.0 (เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ได้ ร้อยละ 2.9) 

และพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 2.0 (ลดลงจากร้อยละ 2.7)