“ก้าวไกล” ซัดมติอัปยศ! สภาผ่านสูตรหาร 500 ชี้ฝ่ายบริหารแทรกแซงนิติบัญญัติ

“ก้าวไกล” ซัดมติอัปยศ! สภาผ่านสูตรหาร 500 ชี้ฝ่ายบริหารแทรกแซงนิติบัญญัติ

“ก้าวไกล” ดาหน้าซัดมติอัปยศ! หลังโหวตพลิกสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เป็นหาร 500 “ชัยธวัช” ลั่นพร้อมสู้เต็มที่เอา “ระบอบประยุทธ์” ออกไป “ปดิพัทธ์” ชี้ใบสั่งฝ่ายบริหารแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ “โรม” เปรียบเป็นการสืบทอดอำนาจ

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค เช่น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เป็นต้น ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภามติเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 23 ของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฉบับที่ .. พ.ศ. … ตามที่กรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย ให้ใช้สูตรการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบจัดสรรปันส่วนผสม โดยนำ 500 มาหาร

นายชัยธวัช กล่าวว่า เรายืนยันมาโดยตลอดว่าการแก้ไขระบบการเลือกตั้งผ่าน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. เป็นระบบที่หาร 500 นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม เจตนาชัดเจนทั้งบทบัญญัติและการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ต้องการที่จะเปลี่ยนไปใช้สูตรการเลือกตั้งแบบคู่ขนานไม่ใช่แบบระบบสัดส่วนผสมอย่างที่ทางพรรคก้าวไกลได้เคยเสนอ การลงมติของรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 ไม่ได้เป็นไปเพื่อต้องการจะออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีให้แก่ประชาชน แต่เป็นการลงมติเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพียงเท่านั้น จนนำไปสู่การโหวตที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

“เป็นการลงมติที่อัปยศที่สุด เพียงเพื่อสืบทอดอำนาจของระบอบ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นพรรคก้าวไกลยังยืนยัน ว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. และจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมถึงคัดค้านกระบวนการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ และจะร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยและพี่น้องประชาชน เพื่อออกจากระบบประยุทธ์ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการตีความ 8 ปีนายกฯ จะทำอย่างถึงที่สุด” นายชัยธวัช กล่าว

“ก้าวไกล” ซัดมติอัปยศ! สภาผ่านสูตรหาร 500 ชี้ฝ่ายบริหารแทรกแซงนิติบัญญัติ

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ฉบับที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้ หากว่าผ่านรัฐสภาไปได้ ตามมาตรา 132 ของรัฐธรรมนูญ รัฐสภาจะต้องส่งไปให้ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากมีความเห็นส่งกลับมาว่าร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้ ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ จะถูกส่งกลับมาที่รัฐสภาให้แก้ไขอีกครั้ง หากเกิดกระบวนการแบบนั้น จะมีการต่อสู้อย่างเต็มที่ ให้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ให้ชอบต่อรัฐธรรมนูญให้ได้

ส่วนนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนอยู่ในกระบวนการทุกอย่าง กมธ.เสียงส่วนใหญ่ ยืนยันในชั้น กมธ.มาโดยตลอดว่า อย่างไรก็ต้องหาร 100 และเสียงของผู้แปรญัตติและผู้สงวนความเห็นของการหาร 500 เสียงเบามาก แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มีการเปลี่ยนท่าที โดยเฉพาะของฝั่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า อย่างไรก็ต้องเอาหาร 500 ให้ได้ เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าเสียงดังกล่าวคือ ฝ่ายบริหารเข้ามาแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างน่าสงสัยที่สุด อย่างไรก็ตามระบบการเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มอนุรักษ์อำนาจเดิมเท่านั้น เราจะไม่ร่วมสังฆกรรม และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการสืบทอดอำนาจ โดยจะต่อต้านถึงที่สุด

“ก้าวไกล” ซัดมติอัปยศ! สภาผ่านสูตรหาร 500 ชี้ฝ่ายบริหารแทรกแซงนิติบัญญัติ

ส่วนนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทุกคนคงทราบว่าในตอนแรกจะเป็นการหาร 100 แต่เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาก็พลิกกลับ สงสัยว่าที่ชอบพูดกันว่า ส.ว. เป็นอิสระ ตรงไหนคือความอิสระ ส่วน ส.ส.รัฐบาล ไม่แน่ใจว่าไปคุยกันตอนไหน แต่เข้าใจว่าคงไปคุยกันที่ทำเนียบรัฐบาล หมายความว่าการทำหน้าที่ของสภาแห่งนี้ และของ ส.ว.ไม่ได้อิสระจริง ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกลับไปใช้ระบบที่หาร 500 เป็นการตอกย้ำการสืบทอดอำนาจ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวไม่ใช่การออกแบบระบบเลือกตั้งที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่เป็นการออกแบบที่อยู่บนพื้นฐานว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีประชาชนอยู่ข้างในเลย