"ส.ว." เอาด้วยสูตรหาร500 เลือกวิธี "อกนิษฐ์" ฟื้น ระบบจัดสรรปันส่วนผสม

"ส.ว." เอาด้วยสูตรหาร500 เลือกวิธี "อกนิษฐ์" ฟื้น ระบบจัดสรรปันส่วนผสม

รัฐสภา เริ่มถกร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ครั้งที่สองแล้ว สะพัด "ส.ว." ส่วนใหญ่เอาด้วยสูตรหาร500 พร้อมจ่อเลือกวิธีของ "อกนิษฐ์" ที่ฟื้นระบบจัดสรรปันส่วนผสม

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น.  ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ได้เริ่มพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการผเลือกตั้ง (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา ในวาระสอง ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง โดยเร่ิมต้นจากการลงมติเกี่ยวกับคำแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภาว่าด้วยการกำหนดให้หมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นเบอร์เดียวกันทั้งการเลือกตั้งแบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ที่ประชุมเสียงข้างมากไม่เห็นด้วย

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับความเคลื่อนไหวของสมาชิกรัฐสภา ต่อการพิจารณาวิธีคำนวณเพื่อหาผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อตามผลรวมคะแนนแบบบัญชีรายชื่อ ในร่างมาตรา  23 ซึ่งกมธ.ไม่มีการแก้ไข และยึดเอาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนเป็นตัวเลขหาค่าเฉลี่ย แต่ล่าสุดมีสัญญาณจากรัฐบาล ขอให้สนับสนุนใช้จำนวนส.ส. 500 คนหาค่าเฉลี่ย 

 

 

            สำหรับรายงานของกรรมาธิการฯ ที่เสนอต่อรัฐสภา ในมาตราดังกล่าว มีผู้ที่เสนอคำแปรญัตติให้ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ย มีทั้งสิ้น 10 คน แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม1 ของส.ว.ประกอบด้วย นายกิตติ วะสีนนท์  ส.ว. , พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. และ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว.

 

 

 

            กลุ่ม2 สูตรของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร  สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย และ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์  ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์

            กลุ่ม 3 ของ, นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังธรรมใหม่

 

            กลุ่ม 4 ของ พล.ต.ท.วิศนุ ม่วงแพรสรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์

 

            กลุ่ม5 ของ  นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 

 

            กลุ่ม 6 ของ นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไทย 

 

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในแต่ละกลุ่มนั้น ยึดการใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยจากผลรวมคะแนนของทุกพรรคที่ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ โดยใช้การหาค่าเฉลี่ย 2 ชั้น เพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.พึงมีของแต่ละพรรค ทั้งนี้มีรายละเอียดที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในถ้อยคำของวิธีการคำนวณ , กำหนดจุดทศนิยมเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ของฐานคะแนนที่คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

 

            ทั้งนี้มีสูตรคำนวณของนายโกวิทย์นั้นมีรายละเอียดที่แตกต่างจากกมธ.ที่สงวนความเห็นคนอื่น คือ ในการคำนวณนั้น ให้นำคะแนนรวมทั้งจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งรวมกันแล้วหารด้วยจำนวน 500 คน ก่อนจะนำไปคำนวณแยกรายพรรคการเมืองอีกครั้ง

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในแนวโน้มของการลงมติของรัฐสภา เพื่อตัดสินว่าหากจะแก้ไขพลิกเป็นสูตร 500 คนหาค่าเฉลี่ยจะใช้วิธีคำนวณของกลุ่มใดนั้น ล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่าจะยึดสูตรคำนวณของกลุ่มส.ว. ที่มี พล.อ.อนิษฐ์ เป็นแกนนำ โดยมีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกับการคิดคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม เหมือนการเลือกตั้งปี2562 

 

 

            โดยมีรายละเอียดวำคัญ คือ วิธีการคำนวณส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงมีโดยใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ย โดยจะใช้การหาค่าเฉลี่ย 3 รอบ คือ รอบแรก หาค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อพึงมี 1 คนแบบคะแนนรวมทั้งประเทศ โดยใช้จำนว 500 คนหาค่าเฉลี่ย รอบสอง ให้นำคะแนนพึงมีที่ได้ไปหารกับคะแนนที่ของบัญชีรายชื่อซึ่งเป็นคะแนนรวมทั้งประเทศ เพื่อแยกให้เป็นคะแนนของพรรคจะพึงใช้เป็นเกณฑ์ที่พรรคการเมืองจะมีส.ส.พึงมี และรอบสาม คือให้ใช้คะแนนพึงมีของพรรคลบกับจำนวนส.ส.เขตที่พรรคได้รับ เพื่อหาจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองจะได้รับเลือกตั้ง

 

            โดยในฝั่งของส.ว.นั้น มีการพูดคุยและกำหนดท่าทีเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่จะสนับสนุนให้พลิกสูตรใช้ 500 คนหาค่าเฉลี่ยและเลือกสูตรที่พล.อ.อนกนิษฐ์ เสนอ