"ก้าวไกล" ลับมีดทุกวันรอซักฟอก! ขู่ ส.ส.อุ้ม "นายกฯ" หมดสิทธิเข้าสภารอบหน้า

"ก้าวไกล" ลับมีดทุกวันรอซักฟอก! ขู่ ส.ส.อุ้ม "นายกฯ" หมดสิทธิเข้าสภารอบหน้า

"โฆษกก้าวไกล" ยันพรรคเตรียมลับมีดพร้อมสู้ "ศึกซักฟอก" ทุกวัน ลั่นเป็นครั้งสุดท้ายรัฐบาลนี้ เผลอ ๆ เป็นครั้งสุดท้ายของ "ประยุทธ์" รู้ดีแม้เสียงฝ่ายค้านแพ้ แต่ประชาชนจะตัดสินเองตอนเลือกตั้งใหม่ ลั่นหาก ส.ส.คนไหนยังอุ้ม "นายกฯ-บิ๊กป้อม" อาจหมดสิทธิเข้าสภา

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า พรรคก้าวไกลเตรียมลับมีดไว้ทุกวัน เพื่อเตรียมพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้ และอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ บรรยากาศจะเป็นเหมือนการพิจารณาในศาล เพราะพรรคก้าวไกล พิจารณาพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดรัฐบาล แม้จะรู้ดีว่าเสียงของฝ่ายค้านในสภาจะแพ้ แต่จะเป็นการส่งไม้ต่อให้ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ข้อมูลครั้งนี้เป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดในการส่งต่อให้ประชาชน รวมถึง ส.ส.ที่อุ้มรัฐบาล เชื่อว่าจะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเช่นเดียวกัน มั่นใจว่าจะมี ส.ส.จำนวนมากจะไม่ได้เข้าสภา หากยังอุ้ม พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า การอภิปรายทุกครั้งฝ่ายรัฐบาลมักจะบอกว่ารับมือฝ่ายค้านได้ เพราะเป็นข้อมูลเดิม แต่เมื่อเจอการอภิปรายของฝ่ายค้านโดยเฉพาะจากพรรคก้าวไกลเรื่องตั๋วช้าง ก็ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับหน้าสั่น ต้องเรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้ามาให้ข้อมูล ขณะเดียวกันสีหน้าของพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่สู้ดี แม้กระทั่งการอภิปรายเรื่องค้ามนุษย์ รัฐบาลต้องใช้เวลาหลายวันในการรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจง