"ทิชา" ยื่น "กมธ.กัญชา" จี้ทำเนื้อหาคุมเข้มด้านสันทนาการ-คุ้มครองเยาวชน

"ทิชา" ยื่น "กมธ.กัญชา" จี้ทำเนื้อหาคุมเข้มด้านสันทนาการ-คุ้มครองเยาวชน

เครือข่ายเด็กและเยาวชน ยื่นข้อเรียกร้อง กมธ.กัญชา สภาฯ ทำเนื้อหาคุมเข้มใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ คุ้มครองเยาวชน ชี้เป็นความอัปยศของสภาฯ ปลดล็อคกัญชา แต่ไม่มีกลไกควบคุม

          นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายลดปัจจัยเด็ก พร้อมเยาวชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … สภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นข้อเสนอต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยให้เน้นการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่เปิดสันทนาการและห้ามขายกัญชาให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มเปราะบางรวมทั้งห้ามใช้กัญชาในสถานศึกษา สถานที่ราชการ และศาสนาสถานอย่างเด็ดขาด, ห้ามไม่ให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติโดยเด็ดขาด เพื่อจำกัดการเข้าถึงและครอบคลุมอายุของผู้ซื้อ, ควรห้ามการโฆษณากัญชา กัญชง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีวิธีการและเนื้อหาเชิญชวนเด็กและเยาวชนทั้งทางตรงและทางอ้อม 


          โดยนางทิชา กล่าวในข้อข้อเรียกร้องของเครือข่ายว่า ไม่ต่อต้านกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยที่จะปลดล็อคเพื่อให้ใช้โดยทั่วไป  ส่วนกรณีที่ปลดล็อกกัญชาออกจากพืชยาเสพติดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน  แต่ไม่มีการควบคุม จึงพบว่ามีสินค้าหลายชนิดที่มีส่วนผสมของกัญชาวางจำหน่ายทั่วประเทศอย่างเปิดเผยและเสรี ถือเป็นความอัปยศของรัฐสภาไทย

 

         "กมธ.ช่วยคิดด้วยว่าจะทำอย่างไรกับด้านมืดของกัญชา  ขอเรียกร้องให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ต้องไม่ให้เยาวชนตกไปสู่หลุมดำ หรือละทิ้งพวกเขาและจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีมาตรการรัดกุม ครอบคลุมทุกมติของปัญหาและผลกระทบที่จะตามมาจากที่ประกาศใช้กัญชา กัญชง" นางทิชา กล่าว


         ด้านนายศุภชัย กล่าวว่า ทางกมธ.จะรับเรื่องที่เสนอมาเสนอต่อกมธ.เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาต่อไป แต่ขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้จะต้องออกมาแล้ว ทำให้กัญชาสามารถใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดต่อประเทศไทยและคนไทย และกฎหมายฉบับนี้ต้องสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วนที่มีความกังวล ให้ได้รับความมั่นใจว่ากฎหมายฉบับนี้ออกมาใช้เพื่อปกป้องประชาชน  และเยาวชนว่าการจำหน่ายให้เยาวชนมีความผิด มีโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบเช่น หญิงมีครรภ์และให้นมบุตร รวมถึงผู้มีอาการป่วยทางด้านจิตเภท เราก็ใส่ไว้ในกฎหมายเช่นกัน