“อุตตม”มั่นใจ “สมคิด”พร้อมฝ่าทุกอุปสรรค พาประเทศไปข้างหน้า

“อุตตม”มั่นใจ “สมคิด”พร้อมฝ่าทุกอุปสรรค พาประเทศไปข้างหน้า

“อุตตม”มั่นใจ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ฝ่าฟันอุปสรรคและนำพาประเทศไปข้างหน้า พร้อมยินดีรับเข็มเกียรติยศธรรมศาสตร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(28 มิ.ย.) ดร. อุตตม สาวนายนหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว แสดงความยินดี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ได้รับเข็มเกียรติยศจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะอาจารย์ ผู้ร่วมงานและผู้ชักชวนเข้ามาทำงานช่วยประเทศชาติ และยังเป็นความหวังนำพาประเทศรอดวิกฤติที่เกิดขึ้นในขณะนี้

ดร.อุตตม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ดร.สมคิดจาตุศรีพิทักษ์ ในโอกาสได้รับมอบรางวัลเข็มเกียรติยศจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครบ 88 ปี เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน2565 (วานนี้)  

อาจารย์สมคิดได้กล่าวถึงการรับเข็มเกียรติยศว่า รางวัลนี้เป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิต เรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นเรื่องปกติ แต่การได้รับรางวัลเกียรติยศจากมหาวิทยาลัยที่จบมา เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตและการทำงานทั้งหมดมีคุณค่าต่อสังคม

ข้อความที่อาจารย์ได้กล่าวข้างต้น สะท้อนความเป็นตัวตนของอาจารย์ได้อย่างชัดเจน คือไม่ว่าดร.สมคิดจะทำงานเป็นอาจารย์ เป็นนักวิชาการ หรือรองนายกรัฐมนตรี อาจารย์ทุ่มเทให้กับงานทุกนาที เพื่อเป้าหมายที่ต้องการทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ 

ผมรู้จักและทำงานกับอาจารย์สมคิดมาจนถึงวันนี้รวมแล้วกว่า 35 ปี พบกันครั้งแรกที่ Kellogg School of Business มหาวิทยาลัย Northwestern สหรัฐอเมริกา อาจารย์สมคิดและผมเรียนบริหารธุรกิจเหมือนกัน อาจารย์เป็นนักเรียนทุนก.พ. กำลังใกล้จะจบปริญญาเอก ส่วนผมใกล้จะจบปริญญาโท ก็คิดจะไปเริ่มอาชีพในสถาบันการเงิน ซึ่งอาจเป็นที่ไหนสักแห่งในต่างประเทศ ตามที่คนจบ MBA สมัยนั้นมักทำกัน 

วันหนึ่งผมไปปรึกษาอาจารย์เรื่องการงาน อาจารย์ชวนคุยเรื่องทางเลือกอนาคตและความคิดของอาจารย์เกี่ยวกับเมืองไทย ถือเป็นมุมมองที่ผมเองขณะนั้นเห็นว่าน่าสนใจมากๆ แต่จริงๆก็ยังไม่มั่นใจเสียทีเดียวว่าตัวเองจะเหมาะไหม แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจกลับประเทศไทยไปร่วมงานกับอาจารย์สมคิดที่คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เป็นก้าวแรกของชีวิตทำงานของผมที่วันนี้เมื่อมองกลับไป มั่นใจว่าวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในวงการวิชาการ ธุรกิจ หรือการเมือง อาจารย์เป็นพี่ที่เคารพรักที่สุดของผมคนหนึ่ง เป็นแบบอย่างและเป็นคนที่ผมปรึกษาได้เสมอ ผมยังได้รับความรู้และแง่คิดดีๆจากอาจารย์ โดยเฉพาะวันนี้ที่ผมและเพื่อนๆกลับเข้าทำงานการเมืองอีกครั้งพวกเราดีใจครับ ที่อาจารย์ยังให้ความสนใจและห่วงใยบ้านเมืองในช่วงเวลาที่ความร่วมมือจากทุกฝ่ายมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคและนำพาประเทศไปข้างหน้า 

ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศครั้งนี้ครับ