“พิธา” รำลึก 90 ปี 2475 ไทยติดวังวนรัฐประหาร ประชาชนร้องหาความเปลี่ยนแปลง

“พิธา” รำลึก 90 ปี 2475 ไทยติดวังวนรัฐประหาร ประชาชนร้องหาความเปลี่ยนแปลง

“พิธา” โพสต์รำลึก 90 ปี อภิวัฒน์สยาม 2475 เผยประเทศไทยยังคงอยู่ในวังวน “รัฐประหาร” นับครั้งไม่ถ้วน ชี้ตอนนี้ผู้คนส่งเสียงเรียกร้องแห่งความเปลี่ยนแปลง พาประเทศไปข้างหน้า โอบอุ้มความฝันประชาชน ลั่นเดินต่อไม่หยุดยั้ง ร่วมสร้างสังคมใหม่

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กรำลึกครบรอบ 90 ปีการอภิวัฒน์สยาม เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2475 ว่า 90 ปี 2475 เสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัย บรรยากาศบ้านเมืองก่อนวันที่ 24 มิถุนายน 2475 อันที่จริงก็แทบไม่ต่างจากประเทศไทยในยุคของเรา เต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ ที่คาราคาซังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่ ณ ตอนนั้น The Great Depression (1929) จากทางฝั่งสหรัฐอเมริกาได้ส่งผลเป็นโดมิโนต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งไทยเองก็หนีไม่พ้นราคาข้าวที่เป็นสินค้าหลักในการส่งออกราคาตกต่ำลงจนเหลือเพียง 1 ใน 3 ของราคาก่อนช่วงวิกฤต ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาที่เป็นกำลังหลักของประเทศ ข้าวยากหมากแพงจนราษฎรเดือดร้อนกันถ้วนหน้า งบประมาณแผ่นดินขาดดุลอย่างหนักจนต้องมีการปลดข้าราชการออกจำนวนมาก ซ้ำร้ายยังมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากราชสำนักใช้จ่ายเกินรายได้จนไม่มีทางออกอื่น

นายพิธา ระบุว่า ทั่วประเทศปกคลุมไปด้วยความสิ้นหวัง ในทางสังคมก็เต็มไปด้วยการทำนาบนหลังคน ชนชั้นเจ้าขุนมูลนายยึดครองทุกโอกาสไว้ให้พวกพ้องและเครือญาติ ยากที่ปุถุชนคนธรรมดาจะต่อรองหรือเรียกร้องอะไรได้ เพราะต่างก็อยู่ในระบอบการปกครองที่คนธรรมดาไม่มีสิทธิ์มีเสียง ระบอบการปกครองที่แม้แต่ชีวิตก็ไม่ใช่ของตนเอง ผู้คนในขณะนั้นจึงทำได้แต่เพียงรอคอยความเมตตาจากผู้ปกครองเท่านั้น

“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 จึงเป็นการปลดปล่อยโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ เข้าสู่สังคมไทย สิ้นสุดยุคทำนาบนหลังคน โอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่ถูกส่งมอบให้สังคมไทยในขณะนั้น ทำให้บรรยากาศของสังคมเต็มไปด้วยความหวัง ผู้คนที่ได้สัมผัสอิสรภาพและการเป็นเจ้าแห่งชีวิตของตนเอง ล้วนไม่ต้องการย้อนกลับไปสู่ระบอบเดิม แม้จะเกิดเหตุการณ์กบฏบวรเดช ที่พยายามย้อนประเทศคืนกลับไปสู่ระบอบเก่า แต่ประชาชนก็ร่วมกันต่อสู้จนปกป้องอิสรภาพที่เพิ่งได้มาเอาไว้ได้” นายพิธา ระบุ

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า ผ่านมาแล้ว 90 ปี จากวันแห่งอิสรภาพ ประเทศไทยกลับยังถูกกักขังในวังวนรัฐประหารนับครั้งไม่ถ้วน ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมไม่ได้รับการแก้ไข เพราะผู้นำคนปัจจุบันไม่มีความสามารถอื่นใดนอกจากทำรัฐประหาร ผู้คนจำนวนมากจึงส่งเสียงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง เสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัยที่มีกลิ่นอายไม่ต่างจากตอน 2475 ความหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างโอกาส สร้างอนาคต ปลดปล่อยศักยภาพประชาชน พาประเทศไปข้างหน้า โอบอุ้มทุกความฝัน ทุกความแตกต่างหลากหลายของผู้คน เดินไปพร้อมๆ กัน

“ผมเชื่อว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลง ต้องทำจากทั้งในสภาและนอกสภา ประชาชนจะเป็นพลังขับเคลื่อนเรียกร้องกฎหมายและนโยบายที่ก้าวหน้า ผู้แทนราษฎรจะนำพาเสียงเรียกร้องเข้าสู่กระบวนการรัฐสภา ผลักดันให้เป็นจริง นี่คือเส้นทางแห่งความหวัง 90 ปีที่ผ่านมา แม้เราจะเดินช้าและหลงทางไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเรายังเดินต่อไปไม่หยุดยั้ง ร่วมกันสร้างสังคมใหม่ที่เท่าเทียม เป็นธรรม และก้าวหน้า ขึ้นมาด้วยมือของพวกเราเอง 90 ปี 2475 มาร่วมเดินทางไปพร้อมกันครับ” นายพิธา ระบุ