"สุพัฒพงษ์"ตอบกระทู้ "เพื่อไทย" ย้ำแผนแก้น้ำมันแพง สถาบันการเงินเชื่อมั่น

"สุพัฒพงษ์"ตอบกระทู้ "เพื่อไทย" ย้ำแผนแก้น้ำมันแพง สถาบันการเงินเชื่อมั่น

ครูมานิตย์ ตั้งกระทู้สด ถามวิธีแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง "สุพัฒพงษ์" ตอบแนวทางที่ทำอยู่ สถาบันการเงินเชื่อมั่น และมั่นใจดูแลกลุ่มเปราะบาง ทำเศรษฐกิจประเทศเติบโต

         ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ช่วงกระทู้ถามสด พรรคฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามรัฐบาลต่อวิกฤตพลังงานและการแก้ปัญหาของรัฐบาล

 

         โดยนายครูมานิตย์  สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามต่อการแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานน้ำมันแพง พร้อมเสนอแนะให้บริษัท ปตท. ที่ได้กำไรจากการใช้น้ำมันของประชาชน ควรนำกำไร ตัดกลับมาลดค่าน้ำมัน เพื่อช่วยประชาชนในภาวะวิกฤต รวมถึงรัฐบาลควรใช้วิธีทางการทูตเพื่อเจรจากับประเทศที่มีบ่อน้ำมันเพื่อแก้ปัญหาดีกว่าแนะนำให้ประชาชนไปใช้เตาอั้งโล่

 

 

         โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน  ชี้แจงว่า รัฐบาลพยายามคุมราคาน้ำมัน ทราบว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม พบว่าราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่  46บาทต่อลิตร ขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 30 กว่าบาทต่อลิตร ดังนั้น การรักษาและตรึงราคาให้นานที่สุด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน64 ถึง ถึงมิถุนายน65 แต่ละวันเงินกองทุนออกไปเฉพาะดีเซล เดือนละ 2หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ต้องรักษาความสามารถการแข่งขัน เพราะแนวทางที่ดำเนินการนั้น ในส่วนน้ำมันดีเซล สถาบันการเงินมั่นใจว่า ดูแลคนตัวเล็ก ประคองกลุ่มเปราะบาง และสร้างการเจริญเติบโตของเศรฐกิจได้

         “เราต้องการรักษาเสถียรภาพการเงินการคลัง เพราะไม่สามารถดันจนราคาถูก เหมือน ประชาชนไม่เดือดร้อนได้ เพราะจะกระทบเสถียรภาพการเงินการคลัง หากทำให้อ่อนแอ ไม่มีความเข้มแข็ง เพราะเป็นสินค้านำเข้า 90%” นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจง

 

         นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า แม้ว่าบริษัท ปตท. กำไรเยอะ และรัฐบาลถือหุ้น 62% ไม่ใช่กระทรวงพลังงานถือหุ้น แต่คือกระทรวงการคลังเงินกำไร หรือเงินปันผลทุกปีที่ดูเหมือนเยอะ จากสถิติ จะกันเงิน 50% -60% เป็นเงินปันผลเข้าสู่กระทรวงการคลัง ถือเป็นรายได้แผ่นดิน ส่วนที่เหลือ 10% ใช้สำหรับบำรุงรักษาเครื่องจักร เครื่องยนต์ ขยายกิจการเพื่อสร้างเสถียรภาพความมั่นคงพลังงาน

 

         “หากจะให้ชะลอการลงทุน เพราะประชาชนเดือดร้อน สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งผู้ถือหุ้นพิจารณากันทุกปีในการจ่ายเงินปันผลของ ปตท. ขณะที่ความช่วยเหลือจาก ปตท.​ ตามที่ร้องขอไม่เคยขัดข้อง เช่น ลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซล 1.40บาทต่อลิตร ทั้งนี้ผมขอให้ส.ส. ช่วยเผยแพร่ข้อมูลไปยังประชาชน เพื่อประหยัดพลังงาน เช่น ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เตาอั้งโล่ ที่ขยายผลในมุมคนเมือง กระทรวงพลังงานเห็นความสำคัญที่ใช้เตาถ่าน เพื่ออนุรักษ์และประหยัดพลังงาน ไม่ใช่การทดแทนใช้แก๊ซหุงต้มที่ขาดแคลน” นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจง.