"พปชร." เร่ง ปั้มผลงาน ชง "ก.แรงงาน" ขึ้นค่าแรง คาดได้ข้อสรุปในไม่ช้า
"พัชรินทร์" เผย "พปชร." จำเป็นต้องขับเคลื่อนนโยบาย โดยพิจารณาตามสถานการณ์ ชง "ก.แรงงาน" ขึ้นค่าแรง คาดได้ข้อสรุปในไม่ช้า รับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากภาวะค่าครองชีพของประชาชนที่สูงขึ้น พปชร. และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้ผลักดันและสนับสนุนมาตรการดูแลผลกระทบประชาชน อย่างเร่งด่วน
ที่ล่าสุดเมื่อ 9 มิ.ย.65 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 11) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับตั้งแต่วันออกประกาศ และจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานมีฝืมือ ที่ถือเป็นกำลังสำคัญต่อการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ดังนั้น การปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานรวม 16 สาขา จึงถือเป็นแนวทางในการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดฝีมือแรงงานในภาคการผลิต และบริการมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการตลาด โดยใช้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นเกณฑ์วัดค่าทักษะฝีมือ ความรู้ ความสามารถ
น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า การปรับเพิ่มขึ้นค่าแรงตามมาตรฐานฝีมือแรงงานดังกล่าว จะมีส่วนสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับกลุ่มอาชีพ 16 สาขา โดยภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานที่สอดรับกับองค์กรธุรกิจทั้งการยกระดับทักษะให้ดีกว่าเดิม (Upskill) และการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน (Reskill) ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและลูกจ้างมีรายได้ที่สูง
น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ต้องยอมรับว่า จำเป็นต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา ไทยประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน และล่าสุดยังมีวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ที่กระทบต่อราคาพลังงาน การดำเนินมาตรการต่างๆ จึงต้องมองในหลายมิติ และต้องสมดุล เช่นเดียวกับประเด็นของค่าแรง ที่ต้องคำนึงถึง ทั้งต่อลูกจ้างและนายจ้าง ที่ต่างประสบกับปัญหาอย่างต่อเนื่อง
"ดังนั้น คงไม่สามารถที่จะเอาการเมืองมานำสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ พปชร.ได้คิด และส่งผ่านนโยบายไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินมาตรการต่างๆ ผ่านคณะกรรมการ และผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบคอบ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า เนื่องจากไทยเริ่มมีการเปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบ จะส่งผลให้การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและในประเทศทยอยกลับมาฟื้นต้ว ทำให้เศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาพรวมตลาดแรงงานด้วย" น.ส.พัชรินทร์ กล่าว
สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน 16 สาขาที่ปรับเพิ่ม ประกอบด้วยกลุ่มอาชีพช่างก่อสร้าง 5 สาขา ได้แก่
- ช่างติดตั้งยิปซั่ม 450 – 595 บาท/วัน
- ช่างเขียนแบบก่อสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ 645 บาท/วัน
- ช่างปูกระเบื้องผนังและพื้น 450- 650 บาท/วัน
- ช่างสีอาคาร 465 -600 บาท/วัน
- ช่างก่อและติดตั้งคอนกรีตมวลเบา 475 – 575 บาท/วัน
กลุ่มอาชีพช่างอุตสาหกรรมศิลป์ 4 สาขา ได้แก่
- ช่างเครื่องประดับ (รูปพรรณ) 450-650 บาท/วัน
- ช่างประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ 430- 550 บาท/วัน
- ช่างฝีมือเครื่องประดับแนวอนุรักษ์(เทคนิคโบราณ) 525 บาท/วัน
- ช่างเครื่องถม 625 บาท/วัน
กลุ่มอาชีพภาคบริการ 7 สาขา ได้แก่
- นักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (หัตถบำบัด) 460-575 บาท/วัน
- ผู้ประกอบขนมอบ 400 – 505 บาท/วัน
- พนักงานต้อนรับส่วนหน้า 440 – 565 บาท/วัน
- พนักงานแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่มในธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร 440 บาท/วัน
- ช่างแต่งผมสตรี 440 – 650 บาท/วัน
- ช่างแต่งผมบุรุษ 430 – 630 บาท/วัน
- การดูแลผู้สูงอายุ 500 บาท/วัน