รองโฆษก ตร.ลั่นไม่อยากจับใคร วอนม็อบ “เดินไล่ตู่” ปฏิบัติตามกฎหมาย

รองโฆษก ตร.ลั่นไม่อยากจับใคร วอนม็อบ “เดินไล่ตู่” ปฏิบัติตามกฎหมาย

รองโฆษก ตร.ลั่นไม่อยากจับใคร หลังม็อบ “เดินไล่ตู่” ชุมนุม วอนขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เหตุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังบังคับใช้อยู่

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2565 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยถึงการชุมนุม “เดินไล่ตู่” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเคลื่อนตัวไปยังอนุสาวรีชัยสมรภูมิ ว่า ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด รวมถึงยังมีการชุมนุมเรื่องความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ โดยการชุมนุมในวันนี้มีการรวมตัวจากคนหลายกลุ่ม และขณะนี้ยังคงบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ ดังนั้นการรวมตัวมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จำเป็นต่อการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาของการบังคับใช้กฎหมายนั้น มีการจัดกิจกรรมชุมนุมกว่า 4,000 ครั้ง มีการดำเนินคดี 1,300 คดี ทั่วประเทศ เฉพาะ บช.น.รวม 800 กว่าคดี มีการจับกุมผู้ก่อความวุ่นวายที่แยกดินแดงเป็นเด็กและเยาวชนเกินครึ่ง

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า สำหรับการชุมนุมในวันนี้ มีการเตรียมกำลังตำรวจคอยเฝ้าระวังสถานการณ์ไว้พร้อม ยืนยันว่าตำรวจไม่อยากจับกุมผู้ใด แต่ขอให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายต่างๆ เช่น พ.ร.บ.ความสะอาด พ.ร.บ.จราจร และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เรื่องจำนวนผู้ชุมนุมนั้นมีการประเมินไว้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะคอยประกาศเพื่อแจ้งผู้ชุมนุมถึงการดำเนินการต่าง ๆ โดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 15.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออกจากถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีกลุ่มรถจักรยานยนต์นำหน้า โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีการบีบแตรรถจักรยานยนต์ และตะโกน “ประยุทธ์ออกไป” เป็นระยะ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เส้นทางถนนหลานหลวง แทนถนนพิษณุโลก โดยในเวลา 15.40 น. ขบวนถึงสะพานผ่านฟ้า และถนนหลานหลวงตามลำดับ