"เสรีพิศุทธ์" ชี้ ร่างพ.ร.บ.ตำรวจ เปิดช่อง "ตั๋วช้าง-เด็กเส้น" นั่ง ผบ.ตร.

"เสรีพิศุทธ์" ชี้ ร่างพ.ร.บ.ตำรวจ เปิดช่อง "ตั๋วช้าง-เด็กเส้น" นั่ง ผบ.ตร.

"รัฐสภา" ผ่าน 3มาตราสำคัญ เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก เพิ่มให้ มี ก.ต.ช. คุม ด้าน "เสรีพิศุทธ์" ชี้เขียนกฎหมายซ่อนกล ให้ ตั๋วช้าง-เด็กเส้น เป็น ผบ.ตร. โยกข้ามหัว รองผบ.ตร.- จเรตำรวจ

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. รองประธานกมธ.คนที่หนึ่ง เป็นประธานกมธ. ในวาระสอง ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ได้เริ่มต้นการพิจารณา มาตรา 12 ว่าด้วยการแบ่งส่วนรชการในสำน้กงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)  ซึ่งกมธ. ปรับแก้ไขเพียงเล็กน้อย แต่คงสาระสำคัญ คือ ให้มีกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค, กองบังคับการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด, สถานีตำรวจ  พร้อมกำหนดหน้าที่ในงานป้องกันและปราบปรามการทำผิดอาาญาและรักษาความสงบเรียบร้อย ตามแผนหรือมาตรการที่ ก.ต.ช. และ คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้แม้ที่ประชุมจะใช้เวลาอภิปรายเกือบ2ชั่วโมง ที่ประชุมเห็นด้วยกับกมธ.แก้ไข

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อจากนั้นที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 13 ว่าด้วยการแบ่งสถานีตำรวจ ออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งกมธ.แก้ไข ให้สถานีตำรวจระดับใหญ่มีหัวหน้าสถานีดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ , สถานีตำรวจระดับกลางมีหัวหน้สถานีดำรงตำแหน่งผู้กำกับกาหรือสารวัตรใหญ่ และ สถานีตำรวจระดับเล็กมีหัวหน้าสถานีตำรวจดำรงตำแหน่งสารวัตร

 

         ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายให้ความเห็นว่าหากร่างดังกล่าวผ่านไปจะเดือดร้อนทั้ง สตช. เนื่องจากวันดีคืนดี ฝ่ายการเมือง หรือ นายกรัฐมนตรีสั่งย้ายจากระดับใหญ่ ไประดับกลาง อาจเป็นการลดระดับ และใช้เป็นการกลั่นแกล้งกันได้

 

         “สมัยก่อนมีพ.ร.บ.ตำรวจ 2547 ตอนนั้นกฎหมายกำหนด การแต่งตั้งผู้บัญชาการ ให้แต่งตั้งจากรองผู้บัญชาการ ตำแหน่ง พล.ต.ต. แต่สมัยหนึ่ง ท่ีมีการเตรียมการยึดอำนาจ แต่งตั้ง พล.ต.ต.บุญชู วังกานนท์ ผู้บังคับการกองปราบเป็น ผู้บัญชาการข้ามผู้ช่วย ข้ามรอง เพื่อไปวัดกัน และเลื่อนเป็น รองผู้บัญชาการ เตรียมปฏิวัติกับ จปร.5 ซึ่งมาตรา 69 ที่เขียนไว้ ว่าด้วยเกณฑ์การแต่งตั้ง (2) ดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.และจเร  แต่งตั้งจาก พล.ต.ท. แสดงว่าข้ามกันไปได้ เขียนไว้เพื่อประโยชน์ใคร ส่วนมาตรา 13 หากไม่ลวง ว่า สถานีตำรวจระดับใหญ่ให้ผู้กำกับ และระดับกลางให้มีสารวัตรใหญ่  เขียนกฎหมายอย่าลวงเพื่อประโยชน์ใคร ไม่รู้ว่าแฝงเพื่อใคร เพื่อผบ.ยุคนี้หรือไม่ กฎหมายออกมา แทนที่ จเรตำรวจ หรือ ผบ.ตร. จะตั้งจากรองผบ.ตร. อาจมีตั๋วช้าง  เด็กเส้นข้ามกันไป” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปราย

         อย่างไรก็ดีในการลงมติพบว่าเสียงข้างมากเห็นด้วยกับกมธ.ที่แก้ไข ในมาตรา 13 หลังใช้เวลาพิจารณาเกือบ 2 ชั่วโมง

 

 

         ต่อจากนั้นได้เข้าสู่มาตราที่สำคัญ ซึ่งกมธ.ได้เพิ่มขึ้นใหม่ ในส่วนของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ทั้งนี้มีกมธ.เสียงข้างน้อยเห็นแย้ง แต่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ชี้แจงถึงความจำเป็น อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าสังเกตว่ามาตรานี้มีผู้อภิปรายเพียงคนเดียว ก่อนที่ที่ประชุมจะลงมติ โดยเสียงข้างมาก 358 เสียงเห็นด้วยกับ กมธ.  ไม่เห็นด้วย 12 เสียง.