อวสาน “พรรคสำรอง” พปชร. อนาคต “ประยุทธ์” ?

อวสาน “พรรคสำรอง” พปชร. อนาคต “ประยุทธ์” ?

นัยว่า ขาใหญ่ในพลังประชารัฐ เตรียมวางยุทธศาสตร์ขายแพ็คคู่ “ประยุทธ์-ประวิตร” ในศึกเลือกตั้งสมัยหน้า แต่ก๊วนอกหักจากรวมไทยสร้างชาติ คงไม่ยอมให้ “บิ๊กป้อม” เฉิดฉายข่ม“บิ๊กตู่” เป็นแน่

“ผมยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้นนะ ผมคิดว่าผมจะทำอย่างไรจะประคับประคองรัฐบาลนี้ให้ครบวาระ เรื่องวันหน้าก็เป็นอีกเรื่องนึง ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน นะจ๊ะ” เป็นคำตอบล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อถูกนักข่าว ถามถึงกระแสข่าวสะพัด เตรียมขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  

ส่วนพี่ใหญ่ 3 ป. อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีกระแสว่าจะขยับไปเป็นที่ปรึกษาพรรค เพื่อเปิดทางให้น้องเล็ก ก็ชิ่งหนีคำถามด้วยการท่องคาถาเดิม “ไม่รู้ ๆ” เมื่อถูกนักข่าวทำเนียบฯ ไล่ต้อน

เมื่อถามถึงอนาคต “บิ๊กตู่” จะไปต่อหรือไม่ “บิ๊กป้อม” ไม่ปฏิเสธสิ้นเชิง แต่ตอบสั้น ๆ ว่า “ยังอีกนาน ยังเหลือเวลาอีกนานที่จะตัดสินใจ”

ข่าวเรื่อง “ประยุทธ์” ยึดพลังประชารัฐ กระหึ่มช่วงเย็นวันที่ 6 มิ.ย.2565 ประเด็นนี้ ถ้าไม่ใช่การโยนหินถามทาง ก็เป็นการปูทางให้นายกฯ ประยุทธ์ตัดสินใจว่า จะเอาอย่างไรทางการเมือง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ เพราะเหลือเวลาไม่มากแล้ว

ขณะที่ พลังประชารัฐก็ต้องชัดเจนเรื่องยุทธศาสตร์เลือกตั้ง เมื่อรัฐบาลนับถอยหลังเหลือเวลาไม่ถึงปี 

เย็นวันก่อน 6 มิ.ย. ระหว่างลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานพิธีเปิดการสัมมนา กําหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทย โดยตอนหนึ่ง ได้เปิดใจว่า “นายกฯ เป็นคนที่นึกถึงคนอื่นเสมอ..ผมไม่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน เป็นแต่ ผบ.ทบ. แต่อาจจะเป็นนานหน่อย แต่ก็ทำให้งานมันเดิน เพราะเรามียุทธศาสตร์ ผมไม่ได้อยู่จนตายคารังเสียเมื่อไหร่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนอยู่แล้ว”

คำพูดที่ว่า “ผมไม่ได้อยู่จนตายคารัง” จึงถูกตีความไปต่าง ๆ นานา 

มีข้อน่าสังเกตว่า กระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และนั่งหัวหน้าพรรคนั้น มาพร้อมกับแรมโบ้อีสาน-เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ตัดสินใจหวนคืนพลังประชารัฐ โดยสมัครเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว

ชื่อ “ประยุทธ์” ยังขายได้ในคนบางกลุ่ม บางภูมิภาค จึงทำให้นักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่เคยก่อร่างสร้างพลังประชารัฐมาแต่แรก ยังหวังที่จะดึงมาเป็นหัวหน้า และปฏิรูปพรรค

ดังที่รู้กัน ความวุ่นวายใน พปชร.ครั้งใหญ่ เกิดจาก พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจเลือก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค ตามมาด้วยเหตุการณ์กบฏผู้กอง ส่งผลให้สมาชิกพรรคคนดังหลายคนลาออกจากพรรคไป

ช่วงหนึ่ง แรมโบ้ เสกสกล พยายามปั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เป็นพรรคสำรองหนุน พล.อ.ประยุทธ์ แถมมีแผนชง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” เป็นหัวหน้าพรรค แต่หลังจากแรมโบ้อีสานเจอพิษคลิปหวย ข่าวพรรคสำรองก็เงียบหายไป

ส่วนแรมโบ้อีสาน หายหน้าไปพักใหญ่ จึงมีข่าวหวนคืน พปชร. โดยยื่นสมัครสมาชิกพรรคผ่านสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค และสุชาติ ชมกลิ่น ผอ.พรรค ก็ยอมรับว่า แรมโบ้กลับมาแล้วจริง

ทำนองเดียวกัน ชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ น้องชายแรมโบ้อีสานบอกนักข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า เสกสกลได้ลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว

ดังนั้น ข่าวเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน พล.อ.ประวิตร และให้บิ๊กป้อมเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค จึงมีคนจับทางได้ว่า ต้นทางของข่าวนี้มาจากใคร

ในพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.จำนวนไม่น้อยที่เห็นตรงกันว่า ต้องปั้น พล.อ.ประวิตร แทน “ประยุทธ์” ที่เรตติ้งตกฮวบฮาบ โดยเฉพาะปรากฏการณ์ ชัชชาติแลนด์สไลด์ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบภาวะผู้นำ ระหว่างประยุทธ์กับชัชชาติ

หลัง ร.อ.ธรรมนัส และ ส.ส.ส่วนหนึ่งได้ออกไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย สภาพก๊กก๊วนในพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังดำรงอยู่ ตามประสาชุมทางเสือสิงห์กระทิงแรด ไม่ว่าจะเป็นก๊กสามมิตร ก๊กมะขามหวาน ก๊กพลังเฮ้ง ก๊กบ้านใหญ่ ฯลฯ

ด้วยเหตุนี้ พล.อ.ประวิตร จึงเป็นศูนย์รวมใจของนักเลือกตั้ง เหมือนสุชาติ ชมกลิ่น ได้พูดถึงบทบาทของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า “คนที่มีบารมีสูงสุดคือลุงป้อม ทุกคนต้องเชื่อลุงป้อม”

ไม่เฉพาะพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร ยังแผ่บารมีไปถึงพรรคเศรษฐกิจไทย แม้วันนี้ จะไม่มี พล.อ.วิชญ์ นั่งเป็นหัวหน้าพรรค แต่หัวหน้าพรรคใหม่ ร.อ.ธรรมนัส ก็ยังต้องฟังบิ๊กป้อม

ขบวนการปั้น “ประวิตร” ทาบ “ประยุทธ์” จึงประโคมโชว์ผลงานแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และปัญหาสังคม หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน และแหล่งน้ำ ผ่านโซเชียลมีเดีย

นัยว่า ขาใหญ่ในพลังประชารัฐ เตรียมวางยุทธศาสตร์ขายแพ็คคู่ “ประยุทธ์-ประวิตร” ในศึกเลือกตั้งสมัยหน้า แต่ก๊วนอกหักจากรวมไทยสร้างชาติ คงไม่ยอมให้ “บิ๊กป้อม” เฉิดฉายข่ม“บิ๊กตู่” เป็นแน่

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณชัดๆ ว่า ไม่ตายคารัง และประกาศยืนสู้จนถึงที่สุด อนาคตคงฝากไว้กับ พล.อ.ประวิตร ผู้คุมกองกำลังนักเลือกตั้งร้อยพ่อพันแม่

ส่วน “ประยุทธ์” จะไปต่อหรือไม่ “ประวิตร” คงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว เพียงแค่รอจังหวะที่น้องจะตัดสินใจ