"มงคลกิตติ์" บอกแค่หยอก หลังพูดจะกระทืบ "ทนายเดชา"

"มงคลกิตติ์" บอกแค่หยอก หลังพูดจะกระทืบ "ทนายเดชา"

"มงคลกิตติ์" แจงคำพูดจะกระทืบ แค่หยอก ฐานะเพื่อนกับ "ทนายเดชา" แนะมีมารยาท อย่าพูดดูหมิ่น พร้อมจ่อเอาผิด ฐานดักฟัง ปมเผยแพร่บทสนทนาที่โทรศัพท์คุยกัน

         นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีการพูดจาข่มขู่จะกระทืบนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความที่พูดพาดพิงคดีของน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์  หรือ แตงโม ว่า เป็นแค่การหยอกล้อ การใช้คำไม่สุภาพเพราะคุยกันในฐานะเพื่อน ขณะนี้พรรคไทยศรีวิไลย์มารับผิดชอบคดีแล้ว อยากให้ออกความเห็นเชิงวิชาการที่ไม่กระทบคดีมากกว่า มิเช่นนั้นจะผิดมารยาททนายความ  ทั้งนี้ครั้งแรกที่ตนตั้งทีมทนายความขึ้นมาดูแลคดีก็หมิ่ประมาทว่าเป็นคณะตลก แต่เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน จึงไม่อยากดำเนินคดีทางกฎหมายหรือมารยาททนายความ ส่วนที่บอกจะใช้วิถีทางการเมืองจัดการ ถ้ายังไม่หยุดวุ่นวายในคดีนั้น ไม่อยากขยายความ แต่ตนมีสมาชิกพรรคเป็นหมื่นคน ถ้าไม่พอใจขึ้นมาอาจไปประท้วงได้ หรือหากมีสมาชิกพรรคไปแจ้งความดำเนินคดีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่อยากให้ลำบากกัน ขอร้องนายเดชาถ้าไม่จำเป็นอย่าออกมาให้ความเห็น ถ้าไม่สบายใจจะให้ไวน์ไปกินอาทิตย์ละขวด 

       ผู้สื่อข่าวถามว่า นายมงคลกิตติ์ถูกมองมีพฤติกรรมกร่างใช้อำนาจส.ส.ข่มขู่ นายมงคลกิตติ์ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส.ก็มีอยู่แล้ว ปกติถ้าคนไม่รักชอบพอกัน จะไม่คุยกัน การที่นายเดชาจะดำเนินคดีกับตนข้อหาข่มขู่นั้น การคุยโทรศัพท์กัน 2คน มีกฎหมายระบุชัดเจนว่า การเอาข้อความที่สนทนาระหว่าง 2คนไปเปิดเผย มีความผิดฐานดักฟังโทรศัพท์ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายเกี่ยวกับโทรเลขและโทรศัพท์ มาตรา24 มีโทษจำคุก 6เดือน ถือว่ามีความผิดแน่

 

          "กรณีที่นำข้อความที่โทรคุยกันไผเผยแพร่ โดยผมไม่อนุญาต และตามคำพิพากษาศาลฎีกา การบันทึกเสียงไม่สามารถนำไปดำเนินการอะไรได้ เพราะได้ข้อมูลมาโดยทุจริต การที่นายเดชาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะถูกข่มขู่นั้น ขอรัรองความปลอดภัย ผมก็ไม่ได้บอกจะทำอะไรนายเดชา แค่บอกว่าถ้าเป็นคนอื่น ผมจะไม่มาคุยกับพี่แบบนี้ ผมจะไม่เตือนอีก" นายมงคลกิตติ์ กล่าว

        นายมงคลกิติ์กล่าวว่า ส่วนที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เคยบอกว่า บังแจ๊คเป็น 18มงกุฎ แต่ยังมาร่วมงานด้วยนั้น บังแจ๊คไม่ไมาร่วมงาน แค่มาตรวจพยานหลักฐาน ถ้าเป็นพยานหลักฐานสำคัญต้องรับไว้ ขอให้ผ่านชั้นศาลชั้นต้นไปก่อน เรื่องส่วนตัวค่อยมาว่ากัน ไม่ถือว่าย้อนแย้ง ต้องแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับคดีให้ออก อย่าผิดใจระหว่างทาง จะทำให้หลักฐานไม่ครบ คดีไม่สมบูรณ์ แม้บังแจ๊คแม้จะมีคดีมากมาย แต่คดยังไม่ถึงที่สุด ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ การไปว่าเป็น18มงกุฎ ดูไปหมิ่นสิทธิเสรีภาพมากไป.