"ประวิตร" สั่ง ปรับกลยุทธ์ ตั้งทีมโซเชียลฯ สู้ เลือกตั้งใหญ่ หลังแพ้ยับ ส.ก.

"ประวิตร" สั่ง ปรับกลยุทธ์ ตั้งทีมโซเชียลฯ สู้ เลือกตั้งใหญ่ หลังแพ้ยับ ส.ก.

"ประวิตร" เรียกถก "แกนนำพปชร." ถอดบทเรียน พ่ายยับ ศึก ส.ก. เมืองหลวง สั่ง ปรับกลยุทธ์ ตั้งทีมโซเชียลฯ-ปั้นนโยบาย เตรียมพร้อมนับถอยหลัง "เลือกตั้งใหญ่"

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เรียกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าภาค รวมถึงนายอภิชัย เตชะอุบล ผอ.ศูนย์เลือกตั้งส.ก.พรรคพปชร.ประชุมด่วนในช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และประธานยุทธศาสตร์พรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผอ.พรรคพปชร. เพื่อวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ของพรรคหลัง เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก. รวมถึงเตรียมการเรื่องนโยบายสำหรับหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อ และปรับปรุงการทำงานภายในพรรค 

ทั้งนี้ นายอภิชัย ระบุในที่ประชุมถึงกรณีที่พปชร. ได้ ส.ก.แค่ 2 ที่นั่งว่ามาหลายปัจจัย ร่วมถึงการทำงานรวมกันของทีมงาน การที่พรรคไม่ส่งผู้ว่าฯ กทม. อาจทำให้การหาเสียงยากเล็กน้อยโดยบุคคล และพรรค ที่ได้คะแนนเสียงมาก ปัจจัยหนึ่งมีผลมาจากการใช้โซเชียลมีเดีย เข้ามาช่วย ทำให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า โซเชียลมีเดีย มีส่วนอย่างมากในการทำงาน จึงอยากให้ปรับการทำงานภายในพรรค โดยปัญหาที่เกิดขึ้น ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป เวลานี้ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน 

นายสุริยะ ระบุถึงปัญหาภายในพรรค พร้อมเสนอว่าต้องจริงจังในการแก้ไข โดยหลักยึดการทำงานร่วมกัน พร้อมกับนำเรื่องโซเชียลมาใช้ในการสื่อสาร ให้เกิดประโยชน์กับพรรคนอกจากนั้นให้ส.ส. นำนโยบายพรรค ลงไปสู่การปฏิบัติให้ประชาชนได้เห็นเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้ตั้งคณะทำงานดูแลเรื่องของโซเชียลมีเดีย มีนายชัยวุฒิ เป็นผู้รับผิดชอบ และตั้งคณะทำงานเรื่องนโยบายพรรคเพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งในช่วงเวลา 10 -11 เดือนที่เหลือ โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังพูดคุยถึงการส่งตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค มีการมอบหมายหัวหน้าภาค ทั้ง 10 ภาค คัดกรองบุคคล โดยยึดหลักพิจารณาผู้สมัครคนเก่าก่อน และดูว่าบุคคลที่จะส่งลงสมัครต้องมีสิทธิ์ชนะ แต่หากพื้นที่ใดมีตัวเลือกมากกว่า 1 รายชื่อ ก็ให้แต่ละภาคคัดกรองก่อนนำเสนอ ไม่เกิน 2 รายชื่อ เพื่อให้ กก.บห. พิจารณาต่อไป