ผ่างบฯกทม.เฉียด 8 หมื่นล้าน! โจทย์ใหญ่ "ชัชชาติ" ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ล่าสุด

ผ่างบฯกทม.เฉียด 8 หมื่นล้าน! โจทย์ใหญ่ "ชัชชาติ" ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ล่าสุด

โจทย์ใหญ่! ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. คนที่ 17 กับแผนบริหาร บนงบประมาณที่ได้รับจัดสรร เฉียด “8 หมื่นล้านบาท” ต่อปี

ผลคะแนน "เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565" ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" เรียกได้ว่า ชนะขาดแลนด์สไลด์ และเตรียมก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งพ่อเมือง "ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร" คนที่ 17 ได้เลย

โดยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.-นายกเมืองพัทยา-สมาชิกสภาเมืองพัทยา ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเสร็จสิ้นการเลือกตั้งท้องถิ่นลำดับสุดท้าย ต่อจากการเลือกตั้งองค์บริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) องค์บริหารส่วนตำบล(อบต.) และเทศบาล ซึ่งจัดมาแล้วในปี 2563-2564

สำหรับการเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.2565” นับเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีเศษ ต่อจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2556 โดยในครั้งนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงที่ 1,256,349 คะแนน ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 16 และเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนล่าสุดที่มาจากการ “เลือกตั้ง” จากคนกรุงเทพฯ

จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.คนถัดมาจากการ “แต่งตั้ง”โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.2559 ถึง 23 มี.ค.2565 รวมระยะเวลา 5 ปี 5 เดือน 5 วัน

“ผู้ว่าฯกทม.” เป็นตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 22 พ.ค.ที่เพิ่งจบลงไป ถือเป็นอีกหนึ่งเดิมพันใหญ่ทางการเมือง เมื่อการเข้าไปมีอำนาจบริหารราชการภายในศาลาว่าการ กทม. มีโครงสร้างเทียบเท่ากระทรวงใหญ่ในหลายกระทรวง โดยเฉพาะงบประมาณบริหารประจำเฉียด “8 หมื่นล้านบาท” ต่อปี

นับจากปี 2559 เป็นต้นมา กทม. ภายใต้การบริหารงานของ “พ่อเมือง” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้รับจัดสรรงบประมาณไม่ต่ำว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อเนื่องมาโดยตลอด

ล่าสุด คือ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 มีวงเงิน 79,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,404 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2564 ซึ่งอยู่ที่ 76,451 ล้านบาท

เมื่อเจาะลึกลงไปในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของ กทม.นั้น ถูกแบ่งเป็น “งบรายจ่ายประจำ” จำนวน 78,979 ล้านบาท และ “รายจ่ายของการพาณิชย์” กทม.จำนวน 875 ล้านบาท

ขณะที่ในส่วนรายจ่ายประจำแบ่งเป็นออกเป็น “งบกลาง” จำนวน 14,417 ล้านบาท ที่เหลืออีกจำนวน 64,561 ล้านบาท เป็นงบประมาณสำนักงานในสำนักปลัด กทม. หน่วยงาน และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต

หากตรวจสอบไปที่งบประมาณปี 2565 ในส่วนสำนักต่างๆ ของ กทม.มี “หน่วยงานที่ได้รับจัดสรรมากที่สุด” 10 อันดับ ดังนี้

1.สำนักการระบายน้ำ 7,004,723,861 บาท
2.สำนักสิ่งแวดล้อม 6,845,454,756 บาท
3.สำนักการโยธา 6,455,586,600 บาท
4.สำนักการแพทย์ 4,439,365,100 บาท
5.สำนักการจราจรและขนส่ง 3,871,137,900 บาท
6.สำนักการคลัง 2,996,974,710 บาท
7.สำนักอนามัย 2,113,644,000 บาท
8.สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว 1,309,339,200 บาท
9.สำนักปลัด กทม. 912,610,510 บาท
10.สำนักการศึกษา 786,415,659 บาท

เมื่อดูข้อมูล งบประมาณของ กทม.“ย้อนหลัง 10 ปี” ตั้งแต่ปี 2555-2565 พบว่า ในปี 2563 มีงบประมาณมากที่สุดอยู่ที่ 83,398 ล้านบาท โดยตัวเลขงบประมาณ กทม.ในแต่ละปี มีดังนี้

ปี 2555 งบประมาณ 55,507 ล้านบาท
ปี 2556 งบประมาณ 60,527 ล้านบาท
ปี 2557 งบประมาณ 65,517 ล้านบาท
ปี 2558 งบประมาณ 65,442 ล้านบาท
ปี 2559 งบประมาณ 70,424 ล้านบาท
ปี 2560 งบประมาณ 75,635 ล้านบาท
ปี 2561 งบประมาณ 79,047 ล้านบาท
ปี 2562 งบประมาณ 80,445 ล้านบาท
ปี 2563 งบประมาณ 83,398 ล้านบาท
ปี 2564 งบประมาณ 76,451 ล้านบาท
ปี 2565 งบประมาณ 79,855 ล้านบาท

รวมงบประมาณระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2555-2565 อยู่ที่ 792,248 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะปีงบประมาณที่ “อัศวิน” เข้ามาบริหาร กทม.ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560-2565 เป็นเวลา 5 ปี 5 เดือน 5 วันนั้น ได้บริหารงบประมาณในศาลาว่าการ กทม. ไปแล้ว 474,831 ล้านบาท

ผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 17 จึงมีเดิมพันในการบริหารงบประมาณประจำปี 2565 จำนวน 79,855 ล้านบาท เป็นโจทย์ใหญ่ว่า จะแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ ตามที่ได้หาเสียงไว้ได้แค่ไหน.