"นายกฯ" รำลึก "ยึดอำนาจ" เหตุ บ้านเมืองเดินต่อไม่ได้ คนไทยไร้ความสุข

"นายกฯ" รำลึก "ยึดอำนาจ" เหตุ บ้านเมืองเดินต่อไม่ได้ คนไทยไร้ความสุข

"นายกฯ" ขึ้นเวที ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ก้มหน้าร่ายยาว อ่านเอกสาร ย้อนอดีต ยึดอำนาจ เหตุ บ้านเมืองเดินต่อไม่ได้ คนไทยไม่มีความสุข แจง "คสช." พิสูจน์ให้ปชช.เห็น ทุกคนมีเสรีภาพทางความคิด นานาชาติเชื่อมั่น นทท.ทะลัก 40 ล้านคน ศก.เติบโต แม้เจอสงครามการค้า

ที่ห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมเสวนาถามมา – ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ( Better Thailand Open Dialogue) 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ย้อนคิดเสมอถึงวันที่ตัดสินใจเข้ามาบริหารประเทศเมื่อ 7 ปีก่อนวันนั้นประเทศไทยมีการแบ่งขั้ว สลับกันต่อต้านซึ่งกันและกัน เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมานับ 10 ปี บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้ คนไทยไม่มีความสุข และประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย พวกเราหลายคนอาจจะลืมกันไปแล้ว และเมื่อตนตัดสินใจไปแล้ว ก็ได้เดินหน้าทำให้ดีที่สุด การมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าใจดีว่าต้องแลกกับการถูกกล่าวหาว่าประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย

นายกฯ กล่าวว่า แต่คสช.ได้พยายามพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าทุกคนสามารถมีเสรีภาพทางความคิด ภายใต้กรอบกฎหมายที่ผ่อนปรนกับทุกฝ่ายมากที่สุด ในช่วงเป็นรัฐบาลคสช. มีอำนาจพิเศษมากมาย แต่ตนก็ไม่ได้ใช้ในทุกกรณี ใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อแก้ไขปัญหาเท่านั้นกระบวนการยุติธรรม การตรวจสอบต่างๆ องค์กรอิสระยังคงทำหน้าที่เป็นอิสระ ตนไม่เข้าไปก้าวล่วงการทำหน้าที่

"วัตถุประสงค์ของการเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศ บ้านเมืองสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และทำให้นานาชาติเกิดความเชื่อมั่นประเทศไทยทุกคนก็ได้เห็นว่าในช่วงหลังจากนั้น รัฐบาลไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และประเทศเรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยียนกว่า 40 ล้านคน" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า เวลานั้นรัฐบาลได้บริหารประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ คือ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ( ปี61-80) เมื่อเข้าสู่รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ปี 62 มีโอกาสสานต่อการบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ตนและคณะรัฐมนตรีทุกคน ได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นกรอบเป้าหมาย และแนวทางการพัฒนาประเทศ ให้กับหน่วยงานของรัฐ ทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติตาม มีการวัดผลและทบทวนแผนอย่างสม่ำเสมอ ตามสถานการณ์และความจำเป็นของประเทศ ในช่วงเวลานั้น แม้หลายประเทศ รวมถึงไทยจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ แต่ก็ยังเติบโตได้ดีระดับหนึ่ง 

ระหว่างนั้น รัฐบาลก็ได้พยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมเดิม พร้อมทั้งมุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถ โดยสร้างอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต เพื่อให้สอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า บรรยากาศของผู้เข้าร่วมงานค่อนข้างบางตา แม้จะมีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าค่อนข้างนาน แต่เมื่อถึงเวลาขึ้นเวทีของพล.อ.ประยุทธ์ เก้าอี้ที่เตรียมไว้รับผู้สนใจเข้าฟังยังว่างอยู่จำนวนมาก และเป็นที่สังเกตว่า ระหว่างที่นายกฯ กล่าวบนเวที จะก้มหน้าอ่านเอกสารที่เตรียมมาเป็นเสียส่วนใหญ่