"ผู้สมัคร ส.ก. รวมไทยยูไนเต็ด" ชู ปราบส่วย เปิดให้ขายของบนทางเท้าทุกวัน
!["ผู้สมัคร ส.ก. รวมไทยยูไนเต็ด" ชู ปราบส่วย เปิดให้ขายของบนทางเท้าทุกวัน](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2022/05/yH3kT57QNUzJdsg1MM6F.webp?x-image-process=style/LG)
"ภัทรพร" ผู้สมัครส.ก. คลองสาน พรรครวมไทย ยูไนเต็ด ชู ปราบส่วย เพื่อให้ได้ทำมาหากิน เลิกจ่ายนอกระบบ จัดพื้นที่พ่อค้าแม่ค้า ขายของได้ทุกวัน
น.ส.ภัทรพร ชุติชวาลนันท์ ผู้สมัคร ส.ก.เขตคลองสาน เบอร์7 พรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวเรื่อง เลิกส่วยเพิ่มพื้นที่ค้าขายที่มั่นคง ว่า เสียงจากพ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่ใน กทม. ที่ค้าขายบนทางเท้า ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า จ่ายเงินให้เขตแล้ว จ่ายเงินให้เทศกิจแล้ว นี้แหละคือสาเหตุที่ทำให้กทม. ไม่สามารถจัดการทางเท้าและพ่อค้าแม่ขายหาบเร่เหล่านี้ ตนจึงคิดว่ามันจะดีกว่านี้แน่ถ้าเราจริงใจที่จะช่วยพ่อค้าแม่ขายและประชาชนเดินทางเท้า เราต้องเลิกการส่งส่วยหรือจ่ายเงินนอกระบบให้หน่วยงานบางหน่วยงาน และจัดพื้นที่ค้าขายที่มั่นคงให้พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้
ในปัจจุบัน เราปฎิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พ่อค้าแม่ค้าต่างหาที่ทำกินยาก เพราะกำลังซื้อลดลง ค้าวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ร่วมถึงค่าแผงขายของที่ต้องจ่าย บางที่ก็ถูกกฎหมายบางที่ก็ไม่ถูกกฎหมาย
การลดปัญหาการเก็บส่วยจากองค์กรบางหน่วย ก็เป็นอีกปัญหาที่ควรจะหมดไป เนื่องจากปัจจุบันพ่อค้าแม่ขายหาบเร่แผงลอยต้องจ่ายเงิน 300 - 500 บาทต่อเดือนในการตั้งแผงขายตามทางเท้าใกล้ย่านคนพลุกพลาน เพื่อหวังจะขายของได้เงินมา แต่คำถามคือ ใครมีอำนาจให้คนมาตั้งของขายขวางทางเท้า? และ เงิน 300 หรือ 500 บาทนั้นไปอยู่ที่ใคร เงินนั้นได้กลับมาพัฒนาอะไรให้พ่อค้าแม่ขายเหล่านี้บ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นคือการจ่ายส่วยจากประชาชน เพื่อขอให้ได้ที่ทำมาหากิน คิดว่าเรื่องดังกล่าวควรหมดไป เราควรที่จะสนับสนุน และ ให้โอกาสพ่อค้าแม่ค้าให้มีสิทธิ์ในการขาย รวมถึงพื้นที่ทางเท้าต้องอำนวยให้ตั้งขายได้ คนเดินสัญจรก็สวนได้ รวมทั้งต้องมีการปรับเวลาเปิดปิดเพื่อขยายโอกาส ขยายช่องทาง ในการทำมาหากิน
การสร้างโอกาสให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามีที่ทำกิน การขายของได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุดโดยจะต้องสร้างการมีส่วนร่วมในการรักษาความสะอาดในแต่ละพื้นที่ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดรูปแบบการค้าด้วยตัวเอง ผ่านเงินที่พวกเขาจ่ายอย่างถูกต้อง และสามารถติดตามการเดินทางของเงินดังกล่าวได้โดยใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยติดตาม
การสร้างพื้นที่เศรษฐกิจ ย่อมนำมาสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน นำเอกลักษณ์ของตลาดที่มีอยู่แล้วมาทำเป็นจุดแลนด์มาร์คแห่งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ที่สำคัญจะต้องมีบริการห้องน้ำอำนวยความสะดวกแก่พ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยว