“สุวิทย์ รัตนมณี” อดีตอธิบดีกรมป่าไม้รอด! ป.ป.ช.ข้างมากตีตกคดีรวยผิดปกติ

“สุวิทย์ รัตนมณี” อดีตอธิบดีกรมป่าไม้รอด! ป.ป.ช.ข้างมากตีตกคดีรวยผิดปกติ

“สุวิทย์ รัตนมณี” อดีตอธิบดีกรมป่าไม้รอด! มติ ป.ป.ช.เสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ตีตกข้อกล่าวหา “ร่ำรวยผิดปกติ” ให้ “นอมินี” ถือทรัพย์สินแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง ตีตกข้อกล่าวหานายสุวิทย์ รัตนมณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กรณีร่ำรวยผิดปกติ

โดยประเด็นดังกล่าว นายสุวิทย์ ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยให้บุคคลอื่นถือครองทรัพย์สินแทน ดังนี้ 1. บ้าน คอนโดมีเนียม และที่ดิน ในพื้นที่กรุงเทพหมาหนคร จังหวัดเชียงราย 2. ยานพาหนะจำนวนหลายคัน โดยจะซื้อในนามเครือญาต และบุคคลอื่น

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบว่า นายสุวิทย์ มีทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก จำนวน 7 บัญชี เงินลงทุน จำนวน 1 บัญชี ที่ดิน จำนวน 1 แปลง สิ่งปลูกสร้าง จำนวน 3 หลัง ปืน จำนวน 2 กระบอก 

ภรรยาผู้ถูกกล่าวหา มีทรัพย์สิน เป็นที่ดิน บัญชีเงินฝาก จำนวน 8 บัญชี เงินลงทุน จำนวน 11 บัญชี ที่ดิน จำนวน 5 แปลง สิ่งปลูกสร้าง จำนวน 1 หลัง ทรัพย์สินอื่น ๆ จำนวน 9 รายการ 

จากการไต่สวนในส่วนของทรัพย์สินในชื่อผู้ถูกกล่าวหาและภรรยาผู้ถูกกล่าวหาไม่พบความผิดปกติแต่ประการใด นางสาว พ. มีทรัพย์สิน ประกอบด้วยบัญชีเงินฝาก จำนวน 12 บัญชี ที่ดิน จำนวน 3 แปลง สิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5 หลัง ยานพาหนะ จำนวน 2 คัน 

จากการไต่สวนโดยสอบพยานบุคคล ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไม่ปรากฎว่าว่าเป็นทรัพย์สินที่ถือครองแทนผู้ถูกกล่าวหา นางสาว ท. มีทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก จำนวน 5 บัญชี ที่ดิน จำนวน 1 แปลง ยานพาหนะ จำนวน 2 คัน จากการไต่สวนโดยสอบพยานบุคคล ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไม่ปรากฎว่าว่าเป็นทรัพย์สินที่ถือครองแทนผู้ถูกกล่าวหา นาย จ. มีทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก จำนวน 4 บัญชี ที่ดิน จำนวน 3 แปลง สิ่งปลูกสร้าง จำนวน 1 หลัง จากการไต่สวนโดยสอบพยานบุคคล ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไม่ปรากฎว่าว่าเป็นทรัพย์สินที่ถือครองแทนผู้ถูกกล่าวหา 

คณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าจากการไต่สวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นางสาว ท. และนาย จ. ไม่ได้ถือครองทรัพย์สินแทนผู้ถูกกล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินสัมพันธ์กับรายได้ เห็นควรเสนอข้อกล่าวหาไม่มีมูล คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565

ที่ประชุมพิจารณาแล้วลงคะแนนเสียง แยกเป็นสองฝ่าย ดังนี้ ฝ่ายเสียงข้างมาก ประกอบด้วย กรรมการ ป.ป.ช.จำนวน 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่านางสาว ท. และนาย จ. ไม่ได้ถือครองทรัพย์สินแทนผู้ถูกกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินสัมพันธ์กับรายได้ ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าร่ำรวยผิดปกติ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป 

ฝ่ายเสียงข้างน้อย 2 เสียง เห็นว่า นางสาว พ. ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะถือครองทรัพย์สินในส่วนที่เกินจากเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อกรมสรรพากร และนาย ก. กรรมการผู้จัดการบริษัท อ. แม้ว่าผลประกอบการจะมีกำไร แต่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล ทั้งไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่ามีศักยภาพที่จะให้เงินหลักแสนถึงหลักล้านบาทแก่นางสาว ท. และนาย จ. ได้ ดังนั้น ทรัพย์สินในชื่อนางสาว พ. ส่วนที่เกินจากเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อกรมสรรพากร ทรัพย์สินในชื่อนางสาว ท. ในส่วนที่ได้รับให้จากนาย ก. และทรัพย์สินในชื่อนาย จ. ส่วนที่ชี้แจงว่ามาจากเงินรายได้จากธุรกิจร้านกาแฟ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และส่วนที่ได้รับให้จากนาย ก. เป็นทรัพย์สินที่เชื่อว่าเป็นของผู้ถูกกล่าวหาโดยให้นางสาว พ. นางสาว ท. และนาย จ. ถือครองทรัพย์สินแทนตน เป็นทรัพย์สินที่นายสุวิทย์ รัตนมณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่ำรวยผิดปกติ เห็นควรยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติของนายสุวิทย์ รัตนมณี ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ. ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง ต่อไป 

ดังนั้น  ผลการลงคะแนนเสียงเพื่อมีมติของที่ประชุมในเรื่องนี้ ต้องถือตามความเห็นของกรรมการ ป.ป.ช. ฝ่ายเสียงข้างมาก จำนวน 7 เสียง ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ว่า นางสาว ท. และนาย จ.ไม่ได้ถือครองทรัพย์สินแทน ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินสัมพันธ์กับรายได้ ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าร่ำรวยผิดปกติ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป