สนามส.ก.เกมวัดดวงเพื่อไทย-อุ๊งอิ๊ง-เสี่ยง“ไม่เลือกเราเขามาแน่”คัมแบ็ค

สนามส.ก.เกมวัดดวงเพื่อไทย-อุ๊งอิ๊ง-เสี่ยง“ไม่เลือกเราเขามาแน่”คัมแบ็ค

ไม้ตาย “อุ๊งอิ๊ง” ลงพื้นที่ “ขุนพลเพื่อไทย” คิดกันมานานแล้ว แต่การใช้กระแส “อุ๊งอิ๊ง” ในพื้นที่กทม. แตกต่างจากพื้นที่ภาคอีสาน เพราะคนกทม.ไม่นิยม “ชินวัตร” เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากหงายไพ่ “อุ๊งอิ๊ง” อาจจะโดนกระแสตีกลับ สะเทือนถึง "ชัชชาติ" ได้

ในที่สุดพรรคเพื่อไทย ก็หงายไพ่หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ตัวสุดท้าย ด้วยการจัดอีเวนท์ให้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ก. หาเสียง

ประเดิมที่ช่วย “เอนก ตุ้มน้อย” ผู้สมัคร ส.ก. เขตตลิ่งชัน เบอร์ 6 “กฤษฎ์ คงวุฒิปัญญา” ผู้สมัคร ส.ก.เขตภาษีเจริญ เบอร์ 6 ลงพื้นที่ตลาดคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน และตลาดสดวัดชัยฉิมพลี เขตภาษีเจริญ

โดยขน “ขุนพลสนาม ส.ก.” ลงพื้นที่ทุกคน อาทิ “พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก. “ดนุพร ปุณณกันต์” ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. สร้างบรรยากาศหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายให้คึกคักมากขึ้น

ฉากหน้าบรรยากาศคึกคัก แต่ฉากหลัง“ขุนพลเพื่อไทย”รับรู้มาระยะหนึ่งแล้วว่า กระแสของ “ผู้สมัคร ส.ก.”พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่มีตัว“ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.”มาเป็นตัวชูโรง คะแนนจึงไม่มีเพิ่ม มีแต่ลดลง

แม้ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ลงในนามอิสระ และไม่มีเรื่องบาดหมางกับเพื่อไทย” แต่ทุกอย่างก้าวของ “ชัชชาติ” ต้องพยายามแยกตัวออกจาก “ทีมเพื่อไทย” เพราะรู้ว่าคนกรุงส่วนใหญ่ไม่เอา “ชินวัตร-เพื่อไทย” ทำให้ “ชัชชาติ” กับ “ทีมเพื่อไทย” ต้องเดินกันคนละทาง

แม้ที่ผ่านมา “ทีมเพื่อไทย” จะพยายามสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ถ้าเลือก “ชัชชาติ” ให้เลือก “ส.ก.เพื่อไทย” อาทิ เสื้อลงพื้นที่หาเสียงสกรีนคีย์เวิร์ดคำใกล้เคียงกัน การใช้สีเขียวซึ่งเป็นสีของ “ชัชชาติ” แทนสีแดงของพรรคเพื่อไทย เป็นต้น แต่คะแนนนิยมของ “ผู้สมัคร ส.ก.” พรรคเพื่อไทย ไม่พุ่งตามคะแนนนิยมของ “ชัชชาติ”

ที่สำคัญ “ขุนพลเพื่อไทย” ทำโพลสำรวจ “ผู้สมัคร ส.ก.” ของพรรค ซึ่งคะแนนลดลงอย่างมาก หลายพื้นที่ที่มองว่ามีโอกาสชนะการเลือกตั้ง คะแนนโพลล่าสุดกลับมาอยู่ในระดับ 60-40 ความหวังที่จะได้ “ส.ก.” ไม่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง จากผลสำรวจโพล กลับเหลือไม่ถึง 15 ที่นั่ง ทำให้ต้องปรับขบวนกันใหม่

ไม้ตาย “อุ๊งอิ๊ง” ลงพื้นที่ “ขุนพลเพื่อไทย” คิดกันมานานแล้ว แต่การใช้กระแส “อุ๊งอิ๊ง” ในพื้นที่กทม. แตกต่างจากพื้นที่ภาคอีสาน เพราะคนกทม.ไม่นิยม “ชินวัตร” เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากหงายไพ่ “อุ๊งอิ๊ง” อาจจะโดนกระแสตีกลับได้

เมื่อเข้าตาจน “ขุนพลเพื่อไทย” อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องรีบคิดอีเวนท์เติมคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะหากปล่อยเอาไว้โอกาสชนะสนาม ส.ก. จะเหลือน้อยลงทันที

หลังจากนี้ ต้องจับตาว่า “ขั้วตรงข้าม” โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถนัดเกมเสี้ยม จะมีกลเม็ดแก้เผ็ดอย่างไร 

อย่าลืมว่าการเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯกทม.” ในปี 2556 “พลต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ” อดีตผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ของพรรคเพื่อไทย โดนวาทกรรม “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” น็อคคาเวทีมาแล้ว

ดังนั้นเมื่อ “เพื่อไทย” เลือกเล่นเกมเสี่ยงด้วยการใช้บริการ “อุ๊งอิ๊ง” ช่วยลงพื้นที่หาเสียง ก็ต้องรอปฏิกิริยาโต้กลับ ปั่นวาทกรรมในช่วงโค้งสุดท้าย ดีไม่ดี อาจกระทบชิ่งสะเทือน “ชัชชาติ” เข้าให้ด้วย