"สกลธี" หาเสียง กทม. ตะวันตก ชู กระจายงบครบทุกเขต แก้ปัญหาขยะ พัฒนาเกษตรกร

"สกลธี" หาเสียง กทม. ตะวันตก ชู กระจายงบครบทุกเขต แก้ปัญหาขยะ พัฒนาเกษตรกร

"สกลธี" ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน จอมทอง ชู "สกลธีโมเดล" รับปากเร่ง แก้ปัญหาขยะ กระจายงบลงพื้นที่ทุกเขต พัฒนาอาชีพเกษตรกร ประชาชนชี้ ติดตามนโยบายผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. จากสื่อโซเชียล อยากได้คนใหม่วัยหนุ่ม เชื่อแก้ปัญหารวดเร็ว

        นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ลงพื้นที่ตลาดเช้าในเขตบางขุนเทียนและจอมทอง โดยสำรวจปัญหาพร้อมรับฟังข้อร้องเรียนจากชาวบ้าน โดยยังคงพบปะประชาชนในตลาดเช้าหลายจุด ทั้งนี้ มีประชาชนมาทักทาย ร้องเรียนปัญหา โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก 

 

        นายสกลธี กล่าวว่า ปัญหาที่ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ยังคงเป็นเรื่องของท่อระบายน้ำและขยะ ซึ่งเรื่องนี้ตนพูดมาเสมอว่า งบประมาณของ กทม. ควรจะกระจายลงไปในทุกเขต แต่การที่กระจายลงไปได้ ก็ต้องหาเงินก่อนซึ่งสกลธีโมเดลของ ตน ก็มีอยู่ 2 – 3 เรื่อง เช่น เรื่องของ ซิตี้ แท็กซ์ หรือการเปลี่ยนขยะเป็นเงินแล้วให้เอกชนทำแทน คือถ้า 2 เรื่องนี้ทำได้ คิดว่าปีหนึ่งจะเหลือเงินงบประมาณอยู่ราว 8,000 - 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เงินสามารถกระจายไปได้ทั่วทุกเขตใน กทม. มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมางบประมาณส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในส่วนกลางมากกว่า และไปลงในโครงการใหญ่ๆ ที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้ จนทำให้โครงการย่อยๆ ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยตรงได้ถูกละเลยไป

         “ตอนนี้ผมคิดว่าเรื่องของขยะมันจบแล้วที่ กทม. จะทำเอง ควรจะต้องดึงเอกชนหรือผู้ที่เขามีศักยภาพมาทำ แทนที่เราจะต้องจ่ายเงินเยอะๆ ก็เอาเงินจากค่าขายขยะมาใช้แทน ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำเงินไปพัฒนาส่วนอื่นๆ ได้อีกมาก” นายสกลธี กล่าว

\"สกลธี\" หาเสียง กทม. ตะวันตก ชู กระจายงบครบทุกเขต แก้ปัญหาขยะ พัฒนาเกษตรกร

         นายสกลธี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในเรื่องปากท้องนั้นตนเห็นว่าพื้นที่นี้ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งยึดอาชีพเกษตรกรรมอยู่ ในลักษณะเดียวกับ ประชาชนในเขตมีนบุรี หนองจอก คลองสามวา ซึ่งตนตั้งใจจะส่งเสริม ให้ชาวกรุงเทพฯ กลุ่มนี้สามารถดำเนินชีวิต ไปได้ในวิถีเดิมเดิมๆ แต่มีรายได้ที่มากขึ้น โดยมุ่งจะหางบประมาณมาช่วยในการพัฒนา เรื่องเกษตรกรรม เพราะเชื่อว่างบประมาณที่จะลงไปในแต่ละเขต สามารถนำไปพัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างกันตามลักษณะของพื้นที่ และความเหมาะสม โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกรของกรุงเทพฯ ที่ยังคงยึดอาชีพปลูกพืชผลทางการเกษตรอยู่ อาจจะเป็นการ ช่วยให้สามารถเพิ่มผลผลิตเดิมได้มากขึ้น หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เป็นการปลูกพืชที่มีมูลค่ามากกว่า รายละเอียดตรงนี้จะเข้าไปศึกษาและรีบดำเนินการหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะรีบทำทันที

 

         ด้าน นายพิพัฒน์ ทัศนศิลป์ อายุ 69 ปี ประชาชน จากเขตบางขุนเทียน กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ตนอาศัยอยู่ในเขตบางขุนเทียน พบว่าปัญหาหลักๆ คือเรื่องขยะ เพราะไม่ถูกจัดเก็บ ทุกวันหรือวันเว้นวัน บางครั้ง ปล่อยเป็นอาทิตย์ทำให้มีปัญหามาก ตนเคยไปร้องเรียนที่เขต แต่ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีรถมาจัดเก็บ ซึ่งจากที่ฟังนโยบายหาเสียงของผู้ว่าแต่ละคน ก็เริ่มมีความหวังว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ตอนนี้เริ่มมีผู้ว่าในใจแล้ว เพราะว่าเวลาที่จะไปเลือกตั้งใกล้เข้ามา ส่วนตัวแล้วอยากได้คนใหม่ๆ คนรุ่นใหม่ เพราะเชื่อว่าจะมีแนวคิดใหม่มาเปลี่ยนแปลง ให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา และน่าจะทำอะไรได้รวดเร็วกว่า

 

           “ผมคิดว่านโยบายการที่จะให้เอกชนเข้ามาทำและมีการจัดเก็บขยะ ทุกวันก็จะยิ่งดีใหญ่ ถ้ามันเป็นปัญหามากในเขตบางขุนเทียนจอมทองตรงนี้ ผมติดตาม Facebook ของผู้สมัครที่ผมสนใจ ที่ได้เผยแพร่เรื่องนโยบายต่างๆ ตอนนี้ก็เริ่มที่จะ ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกใคร เพราะอยากให้เข้ามาแก้ปัญหา เรื่องขยะอย่างจริงจัง และรวดเร็วเสียที” นายพิพัฒน์กล่าว.